#อย่าชะล่าใจกับการใช้ชีวิต สาววัย 30 ปี เล่าประสบการณ์แสนทรมาน หลังป่วยเบาหวานไม่รู้ตัว ค่าน้ำตาลในเลือดพุ่ง 500 กว่า แนะหยุดพฤติกรรมเสี่ยง กินหวานจัด
ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Pornkanok Komvichian เล่าประสบการณ์เตือนภัยว่า ก่อนหน้านี้อยากกินอะไรก็กิน ไม่มีลางบอกเหตุใดๆ จนวันที่ต้องเข้าโรงพยาบาล นาทีชีวิตที่หมอเดินมาบอกครอบครัวว่า “ไม่รอดนะ น้องน่าจะไม่รู้ตัวว่าเป็นเบาหวาน” เบาหวานน้ำตาลสะสม เบาหวานน้ำตาลขึ้นสูงทะลุกว่า 500 (วัดครั้งแรก 530) ซึ่งค่าน้ำตาลคนปรกติจะอยู่ 70-120 ส่งผลให้เลือดเป็นกรด ปอดทำงานหนัก ค่ากรดด่างในเลือดเหลือเพียงเลขตัวเดียว (วัดครั้งแรก 2) จากปกติหมอบอกว่าจะอยู่ที่ 20 กว่า
อาการตอนนั้นคือ นอนหอบ เหงื่อทะลักท่วมตัวอยู่ที่บ้าน ถ้าส่งโรงพยาบาลไม่ทัน คงได้นอนอืดอยู่บนเตียงในห้องนอนแน่ๆ ขอบคุณคนพาส่งโรงพยาบาล
ต้องสอดท่อช่วยหายใจ 4 ครั้ง แต่ละครั้งก็สุดแสนจะทรมาน จนแพทย์-พยาบาลต้องจับมัดมือมัดเท้าไว้กับเตียง ฉีดยานอนหลับทุกชั่วโมงเพื่อพักปอด เจาะวัดน้ำตาลทุกชั่วโมงจนนิ้วพรุน เจาะเลือดไปตรวจจนระบมไปทั้งตัว เจาะให้น้ำเกลือจนไม่มีที่จะเจาะ ต้องย้ายมาเจาะที่เส้นเลือดใหญ่ตรงคอ เจาะเส้นเลือดทุกเส้นในร่างที่สามารถเจาะได้ ห้อยถุงน้ำเกลือ ยาฆ่าเชื้อ อะไรก็ไม่รู้ นับได้ 6 ถุง สอดสายท่อปัสสาวะ สายอะไรบ้างไม่รู้ระโยงระยางเต็มเตียง
เริ่มแรกเดิมทีไม่มีอาการป่วยก่อนหน้านี้เลยแม้แต่น้อย รู้สึกคลื่นไส้ อาเจียนออกเป็นน้ำสีน้ำตาลถึงดำคล้ายน้ำอัดลม หายใจหอบเร็วเหมือนคนกำลังวิ่งอยู่ตลอดเวลา ทุกอย่างเริ่มทรุดลง ภาวะแทรกเริ่มเยอะขึ้น เข้าโรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ 6 ส.ค.63 จนถึงวันนี้วันที่ 18 ส.ค.63 ก็ยังพักฟื้นอยู่
สำหรับอาการตอนนี้ ถอดท่อแล้ว หายใจเองได้ ต้องตรวจน้ำตาลทุกอาหาร 3 เวลาและให้ยาตลอด เพราะน้ำตาลยัง 300 กว่าอยู่ การให้ยาคือฉีดใส่พุงตัวเองเท่านั้น และหากออกจากโรงพยาบาลไปก็ต้องฉีดยาเอง แต่เนื่องจากตอนนี้ค่าน้ำตาลยังสูงมากหมอเลยยังต้องให้พักฟื้นอยู่ #อายุ 30 ปี ทุกคนต่างตกใจกับค่าน้ำตาล #อย่าชะล่าใจกับการใช้ชีวิต
ศาลจ้าวพ่อตาปะขาว ปากน้ำสิชล