แพทย์นักวิจัย เปิดเวทีเสวนาที่สกลนคร แนะอนาคตอาจนำกัญชามาใช้รักษาโรคมะเร็ง และโรคอื่นๆ ได้ โดยยังต้องรอการแก้ไขกฎหมาย ชี้สกลนครเหมาะที่จะตั้งศูนย์อบรมถ่ายทอดความรู้…
วันที่ 1 มกราคม 2561 ที่ที่ทำการสมาคมชาวไร่อ้อย ถ.เสรีไทย ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง จ.สกลนคร นายชัยมงคล ไชยรบ นายก อบจ.สกลนคร และนายกสมาคมชาวไร่อ้อยสกลนคร นายบุญฮง ยอดหอ ประธานสภาเกษตรกรสกลนคร ร่วมกับ นายแพทย์สมนึก ศิริพานทอง นักวิจัยการรักษาโรคมะเร็งด้วยกัญชา และกลุ่มแพทย์อีกกว่า 10 คน ได้แถลงแนวคิดร่วมกันว่า ในอนาคตหากกฎหมายผ่าน สนช. เห็นชอบให้สามารถนำกัญชา มาใช้รักษาโรค ในกรอบกฎหมายที่กว้างขึ้นในทางการแพทย์ โดยเฉพาะโรคมะเร็ง ซึ่งมีผลวิจัยในต่างประเทศและประเทศไทยแล้วว่า สามารถรักษาอาการมะเร็งให้หายได้
ขณะนี้นักวิชาการแพทย์หลายๆ ท่าน มีการทดลองในการรักษาจนสามารถทำให้คนไข้มีอาการหายขาดมาแล้วอย่างน่าทึ่ง ทั้งนี้หากมติ ของ สนช.เห็นชอบให้กฎหมายเกี่ยวกับกัญชา สามารถนำมาเป็นวัตถุดิบเพื่อเป็นยารักษาโรคได้ จะต้องมีพื้นที่ผลิตและเอื้ออำนวย ปรากฏว่าจังหวัดสกลนครมีสภาพภูมิประเทศเอื้อต่อการเติบโตของต้นกัญชาเป็นอย่างดี
นายกฯ อบจ.สกลนคร กล่าวว่า ตอนนี้เราต้องมองไปในมิติใหม่ แต่เดิมกัญชาคือสิ่งผิดกฎหมายเป็นของบาป ต่อไปนี้กัญชาอาจเป็นพืชนักบุญก็ได้ อยากขอชี้แจงว่า เราไม่ได้มีเจตนาจะชวนให้ประชาชนกระทำผิดกฎหมาย เพราะกัญชาจัดอยู่ในยาเสพติดประเภท 5 ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 เว้นแต่ว่า จะให้หน่วยงานกระทรวงสาธารณสุขกระทำการวิจัยหรือทดลองต่างๆ ต่อมาปรากฏว่า กัญชามีคุณประโยชน์รักษาโรคต่างๆ ได้จริง โดยเฉพาะโรคมะเร็ง คณะแพทย์หลายๆ ท่าน ได้ทดลองใช้แล้วและมีการรักษาจริงและหายด้วย แต่ตอนนี้ยังทำอะไรไม่ได้มาก ต้องรอการปรับปรุงกฎหมาย
นายชัยมงคล กล่าวต่อว่า หาก สนช.เห็นชอบตราเป็นกฎหมาย นั่นหมายความว่า กัญชา พืชร้ายแรงที่เราถูกปลูกฝังมานาน จะกลายเป็นจากยาเสพติดมาเป็นยารักษาโรค เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทราบกันมากกว่า 1 ปีแล้ว เพียงแต่ว่าสังคมมองเป็นเรื่องตลก เพราะคิดว่านำไปเสพติดอย่างเดียวตอนนี้ ต้องมองกันใหม่ว่านี้คือการปฏิวัติการรักษาโรคมะเร็งที่รอคำตอบมานาน ซึ่งตนเห็นดีด้วย
ด้าน นายแพทย์สมนึก กล่าวว่า ในหลายประเทศเวลานี้ เช่น สหรัฐอเมริกา แคนาดา มีการแก้กฎหมายให้ปลูกกัญชา เพื่อรักษามะเร็ง แต่ต่อไปนี้ประเทศไทยจะต้องเดินหน้า นำเอาวัตถุดิบที่เรามีมาแต่โบราณนำมาผลิตยา ยอมรับว่าเมื่อก่อนวิชาการเรื่องกัญชาได้ขาดหายไป เพราะมองว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ต่อไปนี้หากกฎหมายเอื้อประโยชน์จะเป็นผลดีอย่างยิ่ง ต้องชี้แจงว่าใครทั่วไปไม่สามารถทำอะไรได้เกี่ยวกับกัญชา เพราะจะต้องผ่านกฎหมายบังคับ เช่น รัฐมนตรีสาธารณสุข องค์การอาหารและยา ที่จะเข้ามาควบคุม
นักวิจัยการรักษาโรคมะเร็งด้วยกัญชา กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ ต้องรอดูกฎหมายว่า จะผ่านหรือไม่ แต่เชื่อว่าผ่านแน่นอน เพราะทุกคนในชาติมุ่งหมายจะให้เกิดสิ่งดีๆ ต่อการแพทย์ของประเทศไทย โดยเฉพาะการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็ง ซึ่งเป็นประเทศแรกที่กฎหมายก้าวหน้าที่สุดในโลก ที่บังคับใช้กฎหมายทั่วประเทศ โดยเฉพาะที่จังหวัดสกลนคร จะเป็นที่ให้เหมาะสมที่สุด ตั้งแต่การทดลองวิจัย การพัฒนาสายพันธุ์ การสกัดเป็นยา เป็นศูนย์อบรมถ่ายทอดความรู้ให้กับวงการแพทย์.
ไทยรัฐออนไลน์
