เจดีย์พระปัญญา (The Wisdom Stupa) สถูปแห่งพระสารีบุตร วัดพระบรมธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช
ภายในวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร (วัดพระธาตุ) โดยเฉพาะในบริเวณวิหารคด (หรือวิหารพระด้าน) นอกจากจะมีพระบรมธาตุเจดีย์องค์ใหญ่ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตั้งตระหง่านอยู่โดดเด่นแล้ว ยังมีเจดีย์รายหรือเจดีย์บริวารอยู่รอบองค์พระบรมธาตุเจดีย์ถึง 158 องค์ และหนึ่งในจำนวนนี้มีเจดีย์อยู่องค์หนึ่งซึ่งเรียกกันว่า “เจดีย์พระปัญญา” หรือ “พระปัญญา” รวมอยู่ด้วย
ประวัติของพระเจดีย์ปัญญา สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างพร้อมกันกับพระบรมธาตุ แต่อาจได้รับการซ่อมแซม ดัดแปลงในยุคสมัยอยุธยา จนเป็นอย่างที่เห็นในปัจจุบัน แต่เดิม พระเจดีย์องค์นี้ เป็นที่ประดิษฐานของ “ พระปัญญา ” อันเป็นฉายา เอกะทัตคะของ “ พระสารีบุตรเถระ ” อัครสาวกเบื้องขวา ธรรมเสนาบดีผู้เลิศด้วยปัญญา ซึ่งแต่เดิม ภายในพระเจดีย์องค์นี้ มีรูปปั้นของพระสารีบุตรเถระ และเป็นเจดีย์ที่อุทิศให้แก่พระสารีบุตร
กาลต่อมาเมื่อมีการซ่อมแซม มีการดัดแปลงรูปปั้นพระสารีบุตรเป็นพระพุทธรูป ปางมารวิชัย ขัดสมาธิราบ ขนาดหน้าตัก 59 นิ้ว ลงรักปิดทองทั้งองค์แทน คนทั่วไปมักเรียกกันว่า “พระปัญญา” หรือ “พระออกเสื้อ” และได้มีการซ่อนสมบัติไว้บนเพดานทางเข้า และเป็นที่มาของลายแทง และการเดินถอยหลังออกมา เพื่อมิให้เห็นช่องซ่อนสมบัติที่อยู่ด้านบน
ชาวนครแต่โบราณมีความเชื่อต่อ ๆ กันมาว่า พระปัญญาองค์นี้มีความศักดิ์สิทธิ์ ทำให้เกิดความเลิศด้านสติปัญญาเฉียบแหลมเหมือนพระสารีบุตรมหาเถระ ผู้ใดใคร่จะมีปัญญาให้มาบนบานขอพร โดยเอามือไปแตะที่พระอุระแล้วกลับมาแตะที่อกตนเอง เป็นทำนองว่าได้ปัญญาจากพระแล้ว ปัจจุบันผู้ที่มาบนบานส่วนใหญ่มักเป็นนักเรียนนักศึกษา เพราะเชื่อกันว่าบนบานทำให้มีความจำในการเรียนหนังสือมากขึ้น หรือฉลาดทันคนขึ้น
ส่วนผู้หญิงที่ตั้งครรภ์มักบนบานกราบไหว้ขอให้บุตรที่จะคลอดมีสุขภาพสมบูรณ์ มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด สุขุมรอบคอบ อีกเรื่องหนึ่งที่มีผู้กล่าวถึงอยู่เสมอก็คือ “ปริศนาลายแทงพระปัญญา” มีข้อความว่า “ถอยหลังเข้าไป เหล็กในแทงตา หันหน้าออกมา กาขี้รดหัว” แปลว่าเวลาเข้าไปให้หันหน้าเข้า เวลาออกให้เดินถอยออกมา ผิดจากคำบอกนี้แล้วจะได้รับอันตราย
เรื่องนี้พระครูสิริธรรมาภิรัต แห่งวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร และผู้ช่วยอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตศรีธรรมาโศกราชได้เล่าว่า เมื่อ 80 ปีที่ผ่านมา มีนักเลงมือดีคิดแก้ปริศนาได้ โดยกลับปริศนาเสียใหม่ว่า “ถอยหลังเข้าไป เหล็กไม่แทงตา หันหน้าออกมา น้ำตาพระร่วง” หรือ “สากทองคำ ตำแล้วพาไป”
ปริศนาลายแทงเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่า ชาวบ้านมีความเชื่อว่าภายในซุ้มพระปัญญา บนเพดานมีไหเป็นที่เก็บทรัพย์สมบัติที่คนโบราณซ่อนไว้เหนือซุ้มประตู ถ้าถอยหลังเข้าไปแล้วเดินหันหน้าออก แหงนดูเพดานก็จะเห็นไหซ่อนทรัพย์อยู่ ซึ่งยังมีร่องรอยปรากฏอยู่จนปัจจุบันนี้
แต่อันที่จริงแล้วอาจเป็นปริศนาที่ชี้ให้เห็นว่า “ผู้ใดที่ไม่เชื่อตามผู้อื่น แต่มีวิธีค้นหาความจริงด้วยตนเอง ผู้นั้นก็จะได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่มีปัญญาอย่างแท้จริง” นั่นเอง
ฟังเรื่องนี้แล้วทำให้เราท่านคิดเห็นได้อีกมุมหนึ่งว่า วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร นอกจากจะเป็นปูชนียสถานที่มีอายุร่วมพันปีแล้ว ยังเป็นศูนย์เรียนรู้ภูมิปัญญา ที่ผู้สนใจสามารถเรียนรู้ด้วยตนเองได้ตลอดเวลา ทุกครั้งที่มานมัสการพระบรมธาตุเจดีย์
หากขบคิดกันเล่นๆ ว่าเป็นเจดีย์ของพระอัครสาวกของพระพุทธเจ้า อันพระบรมธาตุนั้นแทนพระพุทธองค์ผู้ทรงแจ้งโลกแล้ว จะเป็นไปได้ไหมว่า ? เจดีย์หลังวิหารสามจอม เจดีย์สี่กา และเจดีย์ใหญ่ในทิศหรดี แต่เดิม อาจเป็นเจดีย์ที่แทนพระอัครสาวกทั้ง ๔ ( พระสารีบุตร , พระโมคคัลลาน์ , พระมหากัสสปะ , พระอานนท์ ) ก็เป็นได้ นี่เป็นปริศนาที่ต้องขบคิดกันต่อไป อาจพอเป็นไปได้ ที่เจดีย์ใหญ่ประจำมุมทั้งสี่ของพระบรมธาตุในหมู่เจดีย์ราย อาจเป็นเจดีย์ของพระอัครสาวก
ที่มา – ภูมิ จิระเดชวงศ์ , gotonakhon.com , mapio.net
สายลุยเตรียมพร้อมก่อนไป “เดินป่า” อ่านจบรู้เรื่อง