17 ตุลาคม 61 ผู้สื่อข่าวรายงานจากในพื้นที่ นบพิตำพรหมคีรี และท่าศาลา บางส่วน มีมังคุดหลงฤดูออกดอกอย่างหนาแน่นและเต็มพื้นที่ในบางตำบลเท่านั้น ไม่ได้ออกทุกตำบลเหมือนฤดูที่ผ่านๆมา ทำให้พ่อค้าคนกลางวิ่งเหมาดอกกันมากและให้ราคาสูงจนชาวบ้านตั้งข้อสงสัยว่าราคามังคุดเมื่อเก็บขายจะได้โลละเท่าไร
จากการสอบถามเกษตรกรชาวส่วนมังคุงรายหนึ่งในตำบลนาเหรง อ.นบพิตำ นครศรีธรรมราช มังคุด 100 กว่าต้น อายุประมาณ 20 กว่าปี มีพ่อค้าเหมาไปเรียบร้อยแล้วในช่วงที่ออกดอกเล็กๆ 1,000,000 กว่าบาท ซึ่งเป็นราคาที่ไม่เคยได้มาก่อน และไม่คาดฝันว่าจะได้เพราะที่ผ่านๆมา อย่างมากสุดก็ 3 แสนกว่า ซึ่งครั้งนี้นับว่าไม่คาดฝันจริงๆ และหลังจากให้พ่อค้าเหมาไปแล้วยังมีพ่อค้าคนกลางวิ่งมาให้ราคาสูงถึง 3 ล้านบาท ถึง 10 ราย แต่ตนได้ทำสัญญาไว้กับคนแรกแล้วจึงขายให้ใครไม่ได้
หลังจากมังคุด 3 อำเภอนี้เปิดตลาดที่สูงจนเกษตรกรตกใจ ยังมีพ่อค้าหัวใสอีกหลายคนที่ถือโอกาสทองช่วงที่ราคากำลังพุ่ง เหมาแล้วขายเหมาต่อไปอีกราย เห็นกำไรในมือเป็นแสนๆ จนชาวสวนบางรายขอยกเลิกการชื้อขายเหมาสวนก็มี จนมีการแจ้งความเป็นเรื่องเป็นราวถึงหลายรายแต่สำหรับเกษตรกรที่ไม่ได้ทำหนังสือสัญญาใดๆ สำหรับคนที่ทำสัญญา จำใจต้องขายในราคาต่ำๆก็มี เพราะไม่อยากเป็นคดีความ
สำหรับมังคุดที่หลงฤดูเป็นรอบนี้ คิดว่าน่าจะได้ผลผลิตหลังปีใหม่แล้ว และคงคาดว่าได้ราคาสูงตามที่พ่อค้าคนกลางให้ราคาเหมา เพราะรายเล็กๆบ้านละ 10 กว่าต้นก็ได้ราคาเป็นหมื่นเช่นกัน เลยทำให้เกษตรกร 3-4 อำเภอนี้ตื่นตาตื่นใจในราคาที่พุ่งสูง บางคนที่คิดจะปลูกทุเรียนก็หันมาปลูกมังคุดเพิ่มเพราะได้เป็นเงินก้อน
หลังจากเกษตรกรให้พ่อค้าเหมาไปแล้ว ก็เป็นเรื่องที่พ่อค้าคนกลางมีการจัดการที่เห็นในตอนนี้ คือฉีดสารต่างๆให้ออกลูกติดดอกติดผลให้ดี รวมไปถึงให้ผิวสวยก่อนเก็บส่งแผงใหญ่ จากการสอบถามทีมรับจ้างฉีดสารให้พ่อค้าเหมาสวนเปิดเผยว่า รับจ้างฉีดถัง 200 ลิตรละ 450 บาท ฉีดทุกวันและทุกสวนตามที่พ่อค้าคนกลางว่าจ้าง ก็มีรายได้วันละหลายพันเช่นกัน สำหรับสารที่นำมาใช้คนรับจ้างฉีดยาที่เป็นชาวต่างชาติส่วนมาก จะไม่รู้และรู้เพียงว่าผสมในอัตราเท่าไรเท่านั้นเอง
การใช้สารต่างๆเปิดเผยว่าจะใช้ตลอดไปจนกว่าจะเก็บส่งแผงใหญ่และใช้เต็มที่เพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดีที่สุดและได้ราคาสูงๆ จากการสอบถามถามเจ้าของสวน ว่าไมีกลิ่นหรือไม่ในช่วงที่เขามาฉีดเพราะในการฉีดแต่ละครั้งต้องใช้เครื่องฉีดความแรงสูง ทำให้ฟุ้งไปในอากาศในระยะไกลๆ เจ้าของสวนบางรายบอกว่า กลิ่นแรงจนบางครั้งต้องปิดบ้านออกไปด้านนอกเพื่อหนีกลิ่นที่แรงเข้าจมูก แต่เพื่อราคามังคุดที่สูงกว่าปีก่อนๆชาวสวนเกษตรกรมังคุดต้องหาวิธีหนีตายเอาเองโดยที่ไม่มีหน่วยงานใดๆเข้ามาดูแลกำกับเรื่องการใช้สารเคมี
ที่มา – nakhonnews.com
