ขอย้อนหลังกลับไปในอดีดที่เมืองราชบุรี ยังมีขุนโจรกระเดื่องชื่อ คือ เสือแป้น จอมโจรแห่งลุ่มน้ำแม่กลอง เรียกว่าทุกคนต้องได้ยินกิตติศัพท์ ตั้งแต่ราชบุรี สมุทรสงคราม แม้แต่เด็กกำลังร้องไห้ หากพูดว่าไอ้เสือแป้นมา เด็กหยุดร้องทันที !
ก่อนที่เสือแป้น ยังไม่มาเป็นโจนปล้น ตอนนั้นเสือแป้น เป็นลูกศิษย์ ของ หลวงพ่อห้อง วัดช่องลม และได้รับการสักยันต์
ต่อมา เสือแป้นถูกความกดดันหลายสิ่งหลายอย่าง จึงต้องหันเห มายึดอาชีพเป็นโจรเที่ยวปล้นสะดมชาวบ้านชื่อเสียงโด่งดังไปทั่ว ถึงแม้เจ้าหน้าที่จะออกปราบปรามเคยปะทะ กับเสือแป้นแบบประจันบาน เจ้าหน้ายังไม่สามารถทำอะไรเสือแป้นได้ เพราะว่า”หนังเหนียว” คือ “หนังคงกระพัน” อาวุธทุกชนิดของเจ้าหน้าที่ ไม่สามารถทำอันตราย แม้แต่ผิวหนังของเขาได้ เสือแป้นจึงหนีรอดมาทุกครั้ง ในที่สุดทางการจึงวางแผน โดยให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกับสมุนเสือแป้น ใช้วิธีจ้างให้ลูกสมุนทำร้ายให้สลบ เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้เข้าไปจับกุมโดยง่ายดาย ลูกสมุนของโจรพอเห็นเงินก้อนใหญ่เลยเกิดความโลภ จึงวางแผนทรยศต่อลูกพี่ เมื่อเสือแป้นนอนหลับ ลูกน้องได้ใช้ไม้พองตีจนสลบ
เจ้าหน้าที่จึงกรูเข้าจับตัวได้ หลังจากเสือแป้นถูกส่งตัวฟ้องศาล ได้ตัดสินประหารชีวิต ในยุคนั้นการประหาร นักโทษ ทางราชการใช้วิธีนำผู้ต้องหามัดติดกับเสา แล้ว เพชฌฆาต จึงลงมือฟันคอด้วยดาบ
เมื่อข่าวแพร่สะพัดออกไปว่า เสือแป้นถูกจับได้ และถูกนำตัวไปตัดศรีษะ ประชาชนนับหมื่น ต่างมุงดูกัน ล้นหลาม ณ ลานประหาร โดยมีพระยาไกรเพรช รัตนสงคราม สมุหเทศบาล เป็นประธาน ส่วนเพชฌฆาตนั้นได้เตรียมมาจาก กรุงเทพฯ คือหมื่นสาหัส เป็นดาบ 1 คนฟันคอ ส่วนนายอ้น เพชฌฆาต เป็นดาบ 2
หลวงพ่อห้อง วัดช่องลม ราชบุรี
คนรำล่อและเชือด พอได้กำหนดเวลาเจ้าหน้าที่ได้นำตัวเสือแป้น.ผูกคอมัดติดกับเสาประหาร ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจ ของมารดาและบรรดาญาติ พี่น้องที่เคยห้ามปรามแต่ไม่เชื่อฟัง พอได้เวลา เสียงปี่กลองก็เริ่มขึ้น เพชฌฆาต ก็ร่ายรำหลอกล่อไปตามจังหวะเสียงปลี่เสียงกลอง พอรัวๆ เพชฌฆาต ดาบ 1 ก็เงื้อดาบขึ้นสุดแขนฟันลงไปตรงบั้นคอของเสือแป้นทันที
แต่ว่าคมมีดไม่สามารถระคายะผิวหนังของ เสือแป้นได้ แม้แต่ริ้วรอยก็เหมือนรอยหนามเกี่ยวเท่านั้น สร้างความตื่นตะลึงแก่ผู้ที่มาดูในวันนั้น ดาบ 1 ฟันไม่เจ้า ดาบ 2 เลยใช้มีดดาบเชือดเฉือนทันที แต่ทว่าก็หาระคายผิวไม่ ทั้งๆที่ดาบของ เพชฌฆาต เป็นดาบศักศิทธิ์ เคยฟันคอนักโทษที่มีอาคมขลัง ขาดกระจุยมานักต่อนักแล้ว เลยต้องเข้าไปกราบเรียนเจ้าคุณทศ เห็นจะต้องใช้วิธีอื่น พระยาไกรเพรช รัตนสงคราม จึงตัดสินใจให้นำกระทะมาต้ม
เมื่อมารดาเห็นเช่นนั้น จึงได้ขันอาสากับท่านเจ้าคุณ ว่าจะช่วยเกลี้ยกล่อมลูกชายให้เอง ให้ถอนอาถรรพณ์ เพราะไม่อยากเห็นลูกชายต้องทนทุกข์เวทนา เช่นนั้นเมื่อมารดาเสือแป้น เข้าไปเกลี้ยกล่อมบุตรชายให้ถอน อาถรรพณ์ ในที่สุดเสือแป้น บอกให้มารดา ตักน้ำมา และตัวเองทำน้ำมนต์ให้มารดาไปรดที่ตัว พร้อมกับเอาน้ำมนต์ลูบไปที่ อักขระยันต์ด้านหลัง 3 ครั้ง แล้วก้มลงกราบมารดา เป็นครั้งสุดท้าย หลังจากนั้น เพชฌฆาต ก็ทำพิธีประหารต่อไป พอดาบ 1 ฟันลงก้านคอเท่านั้น คอขาดกระเด็นเลือดพุงกระฉูดกระจายไปทั่ว สิ้นสุดชีวิตความชั่วของเสือแป้นฉาย.
ซึ่งเรื่องนี้เป็นที่โจษจันกันไปทั่ว ว่าเสือแป้น หนังเหนียว เพราะหลวงพ่อห้องท่านสักยันต์ให้ ตั้งแต่นั้นมานักเลงถิ่นไหนก็เดินทางมาให้หลวงพ่อห้องท่าน สักยันต์ให้ และถวายตัวเป็นลูกศิษย์ พุทธคุณพระท่านช่วยทุกคนไม่ว่าคนนั้นจะเป็นคนดีหรือคนเลวก็ตาม พุทธคุณพระไม่มีแบ่งชั้นวรรณะ มันอยู่ที่กรรมของแต่ละคน
ขอบคุณข้อมูลจาก : เรื่องเล่าภาพเก่าในอดีตราชบุรี
