การขับรถผ่านเส้นทางที่มีน้ำท่วมขังมีความเสี่ยงต่อการได้รับอันตรายมากกว่าปกติ รวมถึงอาจทำให้เครื่องยนต์ชำรุดเสียหาย
แนะเทคนิคการขับรถผ่านเส้นทางน้ำท่วมขังอย่างปลอดภัย เพื่อความปลอดภัย ดังนี้
ต้องประเมินสภาพเส้นทาง เคาดการณ์ความสูงของระดับน้ำและความแรงของกระแสน้ำ โดยสังเกตจากสิ่งแวดล้อมใกล้ตัว อาทิ เสาไฟฟ้า ต้นไม้ ถังขยะ
ปิดเครื่องปรับอากาศเพื่อป้องกันพัดลมแอร์พัดน้ำเข้าไปในห้องเครื่องทำให้เครื่องยนต์ดับรวมทั้งพัดเศษวัสดุเข้าไปติดในมอเตอร์พัดลมหรือใบพัด ทำให้ระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์ขัดข้อง
ลดความเร็วเพื่อป้องกันคลื่นน้ำปะทะกับรถที่สวนทางมา ทำให้น้ำกระเด็นบดบังทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทางหรือพัดเข้าห้องเครื่องทำให้เครื่องยนต์เสียหาย
ใช้ความเร็วต่ำและรักษาความเร็วให้อยู่ในระดับเดียวกันอย่างสม่ำเสมอรักษารอบเครื่องยนต์ไม่เกิน 1,500 – 2,000 รอบต่อนาที หากรอบเครื่องต่ำอาจทำให้เครื่องยนต์ดับ แต่หากรอบเครื่องยนต์สูงเกินไป จะทำให้น้ำพัดเข้าเครื่องยนต์
ใช้เกียร์ต่ำ รถเกียร์ธรรมดาให้ใช้เกียร์ 1 หรือเกียร์ 2 รถเกียร์อัตโนมัติใช้เกียร์ L ไม่เร่งเครื่องยนต์ เพราะจะทำให้ใบพัดระบายความร้อนทำงานหนัก ส่งผลให้น้ำท่วมห้องเครื่อง
เว้นระยะห่างคันหน้าให้มากขึ้น ลดการใช้เบรกให้ใช้แรงเฉื่อยของเครื่องยนต์ในการหยุดหรือชะลอความเร็วรถเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าให้มากกว่าปกติเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ กรณีรถคันหน้าขัดข้องหรือตัองหยุดกะทันหัน
ทั้งนี้ผู้ขับขี่ควรระมัดระวังการขับขี่บนเส้นทางที่ไม่คุ้นเคยเพราะอาจมีหลุมลึกบนถนน โดยให้จอดรถประเมินสถานการณ์และสังเกตชรถคันอื่นก่อนขับรถผ่านเส้นทางดังกล่าว จะช่วยป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้
เมื่อถึงที่หมาย อย่าดับเครื่องทันที ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที เพื่อให้น้ำที่ค้างอยู่ตามเครื่องยนต์ ท่อไอเสียระเหยออกให้หมดก่อน และควรเหยียบเบรคหลายๆ ครั้ง เพื่อไล่น้ำออกจากจานเบรค และเหยียบคลัทช์ซ้ำๆ (เกียร์ธรรมดา) เพื่อรีดน้ำออก ป้องกันคลัทช์ลื่น
ศาลจ้าวพ่อตาปะขาว ปากน้ำสิชล