อานิสงส์ คนมีศีล ทำให้เป็นที่รักเป็นที่เคารพ ที่พอใจของคนทั้งหลาย

2988
views
คนมีศีล

“ กลิ่นกฤษณาและกลิ่นจันทน์ ยังหอมน้อยกว่า กลิ่นหอมของผู้มีศีล ซึ่งหอมฟุ้งขจรไกล ถึงปวงเทพไทเทวา และมนุษย์ทั้งหลายŽ ”

ศีล หมายถึง การรักษากายและวาจาให้เรียบร้อย ศีล แปลได้ ๓ อย่างคือ
๑. ศีล แปลว่า “ปกติ” คือ ทำกายและวาจาให้เป็นปกติ ให้เรียบร้อย ไม่ทำความเดือดร้อนให้แก่ผู้ใด
๒. ศีล แปลว่า “เย็น” คือ ทำให้เป็นคนเยือกเย็น ทำให้เย็นกาย เย็นใจ ไม่ต้องเดือดร้อนเพราะขาดศีล
๓. ศีล แปลว่า “เกษม” คือ ปลอดถัย ทำให้เบากายเบาใจ

พระพุทธเจ้า

ศีลมีหลายประเภท คือ
๑. ศีล ๕ หรือ ศีลกรรมบถ สำหรับคนทั่วไป
๒. ศีล ๘ หรือ ศีลอุโบสถ สำหรับอุบาสกอุบาสิกา
๓. ศีล ๑๐ สำหรับสามเณร
๔. ศีล ๒๒๗ หรือ ปาริสุทธิศีล ๔ สำหรับพระภิกษุ

ศีล

การรักษาศีลต้องมีเจตนาจึงจะเป็นศีลได้ ถ้าไม่มีเจตนาจะงดเว้น หรือรักษาศีลแล้ว แม้ผู้นั้นไม่ทำความชั่ว เช่น ไม่ฆ่าสัตว์หรือไม่ลักทรัพย์ เป็นต้น ก็ไม่มีศีล เหมือนเด็กที่นอนแบเบาะ แม้ไม่ทำชั่วก็ไม่มีศีล เพราะไม่มีเจตนาจะงดเว้น หรือเหมือนอย่างวัวควาย แม้มันไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ลักทรัพย์ ก็ไม่มีศีล เพราะไม่มีเจตนาจะงดเว้น

การที่จะมีศีลได้ต้องมีวิรัติ คือ มีเจตนาที่จะงดเว้นจากโทษนั้นๆ

อานิสงส์ของศีล

ศีลมีอานิสงส์เป็นอันมาก เช่น ทำให้เป็นที่รักเป็นที่เคารพของคนทั้งหลาย อยู่ในสังคมอย่างสงบสุข ไม่ก่อเวรก่อภัยต่อผู้ใด ทำให้เป็นคนสง่างาม มีผิวพรรณผ่องใส แต่กล่าวโดยสรุป อานิสงส์ของศีลมี ๓ อย่าง ดังคำพระบาลี บอกอานิสงส์ของศีลว่า

ศีล

๑. สีเลน สุคตึ ยนฺติ บุคคลจะไปสุคติได้ก็เพราะศีล
๒. สีเลน โภคสมฺปทา บุคคลจะได้โภคทรัพย์ สมบัติได้ ก็เพราะศีล
๓. สีเลน นิพฺพุตึ ยนฺติ บุคคลจะดับทุกข์ ความเดือดร้อน จนเข้าถึงสู่พระนิพพานได้ ก็เพราะศีล

เพราะฉะนั้น ทุกคนควรรักษาศีลให้บริสุทธิ์ไว้เถิด ก็จะรับอานิสงส์ดังกล่าวแล้วในที่สุดได้

 
ถมนคร : คุณค่าที่คู่ควร ถมนคร, thomnskhon
 
SHARE