ผู้ว่าฯ-ผู้การฯ สุราษฎร์ธานี ร่วมแถลงข่าวจับยาบ้า เกือบ 4 แสนเม็ด หลังตำรวจพุนพินตั้งจุดตรวจบนถนนพบกระบะมีพิรุธ จึงขับตามไปพร้อมยิงล้อรถ ตรวจค้นพบยาเสพติดอื้อ โดยลอตนี้เตรียมขนลงใต้เพื่อส่งต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้าน
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 14 ก.ย.63 ที่ สภ.พุนพิน นายวิชวุทย์ จินโต ผวจ.สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย พล.ต.ต.ฐากูร เนตรพุกกณะ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี นายพีระ กาญจนพงศ์ ผอ.ปปส.ภาค 8 พ.ต.อ.ศิริชัย ทรงวศิน ผกก.สภ.พุนพิน แถลงจับกุมนายธรรมรัตน์ หรืออ๊อด โพธิสัน อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75/192 หมู่ 7 ต.เขารูปช้าง อ.เมือง จ.สงขลา ผู้ต้องหาลักลอบขนยาเสพติด ยึดของยาบ้า จำนวน 396,000 เม็ด รถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ ตอนเดียว สีขาว ทะเบียน ผน 1442 สงขลา
พล.ต.ต.ฐากูร กล่าวว่า ช่วงเช้ามืดวันที่ 11 ก.ย.63 ชุดจับกุมนำโดย พ.ต.ต.สุชาติ เกื้อฉิม สวป.สภ.พุนพิน นำกำลังตั้งจุดตรวจบนถนนทาง หลวงเอเชีย 41 ขาล่องใต้ หมู่ 3 ต.หนองไทร อ.พุนพิน เวลา 06.15 น.ได้มีรถกระบะคันดังกล่าวแล่นมุ่งหน้าลงใต้จะขึ้นสะพานยกระดับแยกหนองขรีก่อนถึงจุดตรวจ 200 เมตร
คนขับรถมีพิรุธได้ชะลอความเร็วบนสะพานและเลี้ยวกลับรถกลางสะพานขับย้อนศรไปในทางที่ขับมาอย่างรวดเร็ว ตำรวจจึงนำรถยนต์ไล่ตามทันในท้องที่ อ.ท่าฉาง ใช้อาวุธปืนยิงใส่ยางล้อหลังด้านซ้ายจนขับต่อไปไม่ได้จึงเข้าควบ คุมตัวพบนายธรรมรัตน์ ขับมาคนเดียว
จากการตรวจค้นที่กระบะหลังพบบรรทุกลังพลาสติกสี่เหลี่ยมสีน้ำเงินจำนวน 4 ใบ แต่มีอยู่ 1 ใบที่มีกระดาษวางอยู่ จึงได้เปิดตรวจดูต่อหน้านายธรรมรัตน์พบภายในมียาบ้าทั้งหมดบรรจุอยู่ในห่อกระดาษอย่างดีพิมพ์อักษร A Y 1 และห่อพลาสติกทับอีกชั้น สอบสวนทราบว่านายธรรมรัตน์ ขับรถไปรับลังบรรจุยาบ้าจากแยก 417 ต.หนองไทร อ.พุนพิน จะนำไปส่งที่ อ.สะเดา จ.สงขลา โดยพบนายธรรมรัตน์มีประวัติเพิ่งพ้นโทษคดียาเสพติดที่ จ.ลำปาง เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่ง พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร.ให้สืบสวนขยายผลต่อไป
นายพีระ กาญจนพงศ์ ผอ.ปปส.ภาค 8 กล่าวว่า ยาบ้าลอตนี้มีเป้าหมายส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยมีต้นทางจุดพักยาอยู่ที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ค่อยกระจายขนลงมาภาคใต้ ซึ่งนายธรรมรัตน์อยู่ในแก๊งเดียวกับที่ขนไอซ์น้ำหนัก 1,199 กิโลกรัม ที่จับได้ใน อ.พุนพิน ก่อนนี้
นายวิชวุทย์ กล่าวว่า ขอชื่นชมทีมตำรวจ สภ.พุนพิน ที่มีการตั้งจุดตรวจและมีการปฏิบัติที่ได้ผลสามารถสกัดจับยาเสพติดที่จะขนไปส่งยังพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างได้ โดยก่อนนี้ตำรวจมีไหวพริบตรวจจับไอซ์จำนวนมากที่ขนจากภาคกลางจะส่งไปยังประเทศเพื่อนบ้านได้.
