เมื่อเวลา 18.30 น. วานนี้ (28 ต.ค. 63) ศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 ตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งจากนางพิศมัย กุลภักดี อายุ 33 ปี ชาว ต.โพธิ์ทอง อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ว่า ถูกคนร้ายขโมยรถจักรยานยนต์ มาจากบ้านพักใน อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช และตนได้ติดตามรถมาจนพบว่า จอดอยู่ใต้ต้นไม้ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช ถนนราชดำเนิน ต.ในเมือง อ.เมืองนครศรีธรรมราช
หลังรับแจ้งทางเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 ได้ประสานไปยัง สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ซึ่ง ร.ต.อ.พละพล คงฉ่ำ รองสวป.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช หัวหน้าชุดป้องกันและปราบปรามการโจรกรรมรถ (ศปร.) สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้นำกำลังไปตรวจสอบ พบรถจักรยานยนต์ สีชมพู-ขาว ทะเบียน นครศรีธรรมราช จอดอยู่ใต้ต้นไม้ภายในรั้วศาลากลาง ใกล้กับป้อมรักษาการณ์ของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย โดยมีนางพิศมัย เจ้าของรถ ยืนรอตำรวจอยู่ในบริเวณดังกล่าว พร้อมแสดงเอกสารการเช่าซื้อ และเอกสารการครอบครองรถคันดังกล่าวแก่เจ้าหน้าที่
นางพิศมัย เผยว่า มีอาชีพเป็นแม่บ้าน และทำงานเป็นอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ใน อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ได้เช่าซื้อรถจักรยานยนต์คันนี้ มาจากบริษัทผู้แทนจำหน่ายเมื่อ 2 ปี ที่ผ่านมา ในราคา 6 หมื่นบาทเศษ โดยผ่อนชำระเดือนละเกือบ 2 พันบาท ยังต้องผ่อนต่ออีกประมาณ 1 ปี ตนใช้รถคันนี้ในครอบครัว รวมทั้งใช้บริการนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล บริการผู้สูงอายุ ปตรวจสุขภาพ
เมื่อคืนวันที่ 22 ต.ต. 63 ที่ผ่านมา รถจักรยานยนต์ของตน ถูกคนร้ายขโมยไป หลังจากกลับจากทำธุระและจอดรถไว้หน้าบ้าน หลังเกิดเหตุตนได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งตนสงสัยชายคนหนึ่งในหมู่บ้าน ว่า น่าจะเป็นคนขโมยของรถของตนไป
โดยรุ่งขึ้นของอีกวัน ตนได้ไปติดตามความคืบหน้าคดีที่ สภ.ท่าศาลา แต่ปรากฏว่าไม่มีความคืบหน้า จึงตัดสินใจสืบหารถด้วยตนเอง โดยเริ่มจากการขอตรวจสอบภาพวงจรปิดตามบ้านเรือน ร้านค้า ส่วนราชการ จากบ้านของตน ไปตามถนนเส้นทางออกจากหมู่บ้าน จนพบเห็นภาพรถของตน ถูกคนร้ายขี่หลบหนีเป็นระยะๆ ในเวลากลางคืน
ตนใช้เวลาสืบและตรวจสอบวงจรปิด จาก อ.ท่าศาลา ข้ามมายัง อ.เมืองนครศรีธรรมราช ระยะทางประมาณกว่า 50 กม. เป็นเวลา 6 วัน จนได้เบาะแสว่ารถเข้ามาในย่านศาลากลางจังหวัด และติดตามด้วยตนเอง จนพบว่า คนร้ายมาจอดทิ้งไว้ในรั้วศาลากลาง จึงโทรศัพท์แจ้ง 191
ในขณะที่ตำรวจสอบถาม เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำป้อมด้านหน้าศาลากลาง ได้แจ้งกับตำรวจว่า พบเห็นรถจักรยานยนต์คันนี้ จอดอยู่ตรงจุดดังกล่าวมาเป็นเวลา 2 วันแล้ว แต่ไม่ได้เอะใจสงสัยอะไร คิดว่าเป็นรถของชาวบ้านที่มาติดต่อราชการที่ศาลากลาง กระทั่งนางพิศมัยมาแจ้งให้ทราบ
ทั้งนี้ ร.ต.อ.พละพล ได้ประสานไปยัง สภ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งได้รับแจ้งว่านางพิศมัยได้แจ้งความร้องทุกข์ไว้เมื่อวันที่ 22 ต.ค.2563 ที่ผ่านมา ทางตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช และ สภ.ท่าศาลา จะได้ร่วมกันสืบสวนสอบสวน เพื่อติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สายลุยเตรียมพร้อมก่อนไป “เดินป่า” อ่านจบรู้เรื่อง