สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เริ่มคลี่คลาย หลังฝนหยุดตก และน้ำลดระดับลง เหลือเพียงบางพื้นที่มีน้ำท่วมขัง ชาวบ้านเร่งเก็บกู้ซ่อมแซมทำความสะอาดบ้าน ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งเป็น 17 คน
เจ้าหน้าที่กู้ภัย และเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลขุนทะเล ตำบลขุนทะเล อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช พยายามกู้ศพของนายสุขใจ บุญศรีพัฒณ์ อายุ 58 ปี ชาวตำบลขุนทะเล อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช หลังจากที่ถูกน้ำป่าซัดสูญหาย เจ้าหน้าที่พบศพจมอยู่ในลำคลองบ้านสวนหวาย ตำบลขุนทะเล อำเภอลานสกา หลังจากนั้นได้ทำการชันสูตรและส่งศพให้ญาติไปดำเนินการ ซึ่งทำให้ยอดผู้เสียชีวิตที่นายไกรสร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้สรุปรายงานกระทรวงมหาดไทยสิ้นสุดวันที่ 4 ธันวาคม 2563 มีผู้เสียชีวิตทั้งจังหวัดรวม 13 ราย และช่วงเช้าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ศูนย์รับแจ้งเหตุตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งเหตุจมน้ำเสียชีวิตเพิ่มอีก 4 รายจาก อำเภอขนอม 1 ราย อำเภอสิชล 1 ราย อำเภอเมือง 1รายและ อำเภอชะอวด 1 ราย ส่งผลให้ตัวเลขผู้เสียชีวิตอย่างไม่เป็นทางการสูงถึง 17 รายแล้ว
พลตำรวจตรีธรรมนูญ ประยืนยง ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช ได้อนุญาตให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากการจมน้ำในพื้นที่พระพรหม โดยมีผู้เสียชีวิตคือ นางสาวจริยา สังข์อินทรีย์ อายุ 27 ปี และเด็กชายนฤบดินทร์ สังข์อินทรีย์ อายุ 6 ขวบ เสียชีวิตจากการจมน้ำเมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 2563 ที่ผ่านมา ได้ใช้สถานที่บริเวณป้อมสายตรวจตำบลนาพรุ เป็นสถานที่ตั้งศพบำเพ็ญกุศลเนื่องจากบ้านและวัดในพื้นที่อำเภอพระพรหม ไม่สามารถใช้สถานที่ได้จากภาวะน้ำท่วมอีกทั้งครอบครัวมีฐานะยากจน โดยพลตำรวจตรีธรรมนูญ ประยืนยง ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ของนครศรีธรรมราช ได้รับอุปการะเป็นเจ้าภาพงานศพโดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยดูแลงานบำเพ็ญกุศลให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
นายนิกูล สังข์อินทรีย์ อายุ 56 ปี บิดา และคุณตาของสองแม่ลูกเปิดเผยว่าในวันเกิดเหตุกระแสน้ำรุนแรงมากหลายฝ่ายได้พยายามเข้าไปช่วยเหลือครอบครัวทั้ง 5 คน แต่ได้รับแจ้งว่า แม่ลูกได้สูญหายไปในน้ำถึงกับเข่าอ่อนทำอะไรไม่ถูก จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ช่วยค้นหาศพจนพบแต่ไม่มีที่บำเพ็ญกุศลเนื่องจากวัดถูกน้ำท่วม บ้านถูกน้ำท่วม จึงมาขอเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งศพ ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากตำรวจเป็นอย่างมาก.
นครศรีธรรมราช ยอดจมน้ำเสียชีวิตพุ่ง 17 คน
