จ.นครศรีธรรมราช – กรณีนายอานนท์ หรือ “บังหมัด” นิยมเดชา อายุ 60 ปี และนางเจ๊นะ นิยมเดชา อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46 หมู่ 6 ต.เกาะเพชร อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช สองสามีภรรยาที่ลูกชายพบหอยมุข มีเม็ดมุกสีส้มขนาดใหญ่ หรือ ที่เรียกว่า “ มุกเมโล “ เป็นมุกหายาก ราคาสูง ล่าสุด มีนักธุรกิจชาวจีนติดต่อขอซื้อราคาหลักสิบล้านบาท แต่อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเป็น มุกเมโล จริงหรือไม่ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
กรณีนายอานนท์ หรือ “บังหมัด” นิยมเดชา อายุ 60 ปี และนางเจ๊นะ นิยมเดชา อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46 หมู่ 6 ต.เกาะเพชร อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช สองสามีภรรยาที่ลูกชายพบหอยมุข มีเม็ดมุกสีส้มขนาดใหญ่ หรือ ที่เรียกว่า “ มุกเมโล “ เป็นมุกหายาก ราคาสูง ล่าสุด มีนักธุรกิจชาวจีนติดต่อขอซื้อราคาหลักสิบล้านบาท แต่อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเป็น มุกเมโล จริงหรือไม่ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า มีนายสะอาด เจ๊ะต่ำ อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33/2 หมู่ 6 ต.เกาะเพชร อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ชาวบ้านละแวกเดียวกับชาวบ้านที่พบมุกสีส้ม นำอำพันทะเล หรือ “อ๊วกวาฬ ” ที่พบเมื่อ 2–3 วันที่ผ่านมา บริเวณริมชายหาด ต.เกาะเพชร มาให้ผู้สื่อข่าวดู พบว่ามีลักษณะเป็นก้อน คล้ายก้อนน้ำยางพารา มีกลิ่นคาว น้ำหนักรวมประมาณ 5 กิโลกรัม ซึ่งชาวบ้านที่พบใช้ไฟลนแล้ว ปรากฏว่า เปลี่ยนสถานะเป็นของเหลว คล้ายเทียนไข จึงมั่นในว่าเป็น อ้วกวาฬ หรือ อำพันทะเล ที่มีชาวประมงในพื้นที่ อ.หัวไทร และ อ.ปากพนัง พบก่อนหน้านี้
นายสะอาด เล่าว่า หลังจากนายอานนท์ หรือ “บังหมัด” พบหอยมุขสีส้มขนาดใหญ่ ทำให้ชาวบ้านทั้งในและต่างพื้นที่ แห่เดินทางมาหาหอยมุก โดยเฉพาะช่วงกลางคืน ตลอดแนวชายหาดเกาะเพชรรวมระยะทางหลายร้อยเมตร ซึ่งตนเป็นคนหนึ่งที่เดินหามุกด้วย
อย่างไรก็ตาม ระหว่างเดินหามุกอยู่นั้น เหลือบเห็นวัตถุบางอย่างเป็นก้อนๆคล้าย อ้วกวาฬ หรือ อำพันทะเล ที่มีคนเคยพบ จึงนำกลับมาเก็บรักษาไว้ที่บ้าน อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า อ้วกวาฬ หรือ อัมพันทะเล มีค่ามีราคาสูง แต่ทราบว่าการพิสูจน์ว่า อ้วกวาฬ เป็นเกรดใด ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงเช่นกัน จึงไม่มีเงินที่จะส่งอ้วกวาฬที่พบไปพิสูจน์ห้องแล็ป
อย่างไรก็ตาม ยินดีที่จะขายหากมีนายทุนติดต่อซื้อและเป็นผู้ลงทุนดำเนินการขั้นตอนต่างๆในการพิสูจน์อ้วกวาฬที่ตนพบ
ชาวประมงเมืองคอนเฮซ้ำ! หาไข่มุกอ่าวไทย แต่พบ’อ้วกวาฬ’หนัก5กก.
