ตำรวจกองปราบตามรวบ “ผู้ต้องหา” ยิง-ฟัน “คู่อริ” เสียชีวิต แต่อายุ 22 ปี หนีคดีร่วมกันฆ่ากบดาน จ.ฉะเชิงเทรา นานกว่า 19 ปี 11 เดือน 14 วัน เหลือแค่ 16 คดีหมดอายุความ พบเคยเปลี่ยนชื่ออำพรางหวังหลบหนีการจับกุม
ตำรวจกองปราบปรามควบคุมตัวนายไปรวิทย์ ผู้ต้องหาตามหมายจับ คดีร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และข้อหาอื่นรวม 4 ข้อหา จากเหตุการณ์ที่ผู้ต้องหากับพวกทะเลาะวิวาทกับคู่กรณีภายในร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช จนมีผู้เสียชีวิต 1 คน และได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 คน จากการสืบสวนพบว่านายไปรวิทย์เป็นผู้ใช้ปืนยิงกรณีเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 9 มี.ค.ปี 44 หรือ เมื่อ 19 ปีก่อนหลังจากนั้นนายไปรวิทย์ ได้หลบหนีการจับกุมมาตลอด
พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดเผยว่า คดีนี้ได้รับการร้องเรียนจากพ่อของผู้เสียชีวิตให้ช่วยสืบสวนติดผู้ต้องหาที่ก่อเหตุยิงลูกชายเพราะเห็นว่าคดีใกล้จะหมดอายุความ เนื่องจากเหตุการณ์ผ่านมาแล้ว 19 ปี 11 เดือน 14 วัน ซึ่งเหลือเพียง 16 วันก็จะหมดอายุความแล้ว ตำรวจกองปราบปรามจึงแกะรอยจนพบว่านายไปร์วิทย์ หลบหนีอยู่ใน จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นบ้านญาติที่ผ่านมานายไปร์วิทย์จะประกอบอาชีพอยู่ในสวนป่า สวนผลไม้ และเคยเป็นช่างอยู่ในอู่ซ่อมรถพื้นที่กรุงเทพฯมาประมาณ 7 ปี
จากการตรวจสอบประวัติพบว่า ผู้ต้องหาเคยเปลี่ยนชื่อมาแล้ว 1 ครั้ง เพื่ออำพรางการถูกเจ้าหน้าที่จับกุม และจากการสอบถามผู้ต้องหาให้การปฎิเสธข้อกล่าวหาแต่ตำรวจยืนยันมีหลักฐานชัดเจนว่าผู้ต้องหาเป็นผู้ก่อเหตุตามหมายจับ ส่วนผู้ที่ให้ที่พักพิงกับผู้ต้องหา ตำรวจจะต้องสอบปากคำรวมทั้งสืบสวนขยายผลว่าเกี่ยวข้องกระทำกความผิดหรือไม่
ผู้บังคับการกองปราบปราม ยังเปิดเผยว่า คดีนี้ผู้ต้องหาถูกออกหมายจับตั้งแต่อายุ 22 ปี แม้ว่าจะผ่านมาเกือบ 20 ปี แต่ตำรวจกองปราบปรามสามารถสืบสวนติดตามจับกุมได้โดยประสานงานร่วมกับตำรวจท้องที่ โดยฝากประชาสัมพันธ์ถึงประชาชนว่า หากใครพบมีผู้ข้อมูลว่าต้องหาหลบหนีคดี หรือคดีใกล้หมดอายุความ สามารถติดต่อมาที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามสืบสวนติดตามได้ทันที
「 ดูข่าวต้นฉบับ 」
16 วันหมดอายุความ ผู้ต้องหาหนีไม่รอดคดีร่วมกันฆ่า
ศาลจ้าวพ่อตาปะขาว ปากน้ำสิชล