27 พ.ค. 64 ร.ต.อ.อภินันท์ พลศร รองสว. (สอบสวน) สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งพบศพผู้เสียชีวิต บริเวณสันเขื่อนคลองท่าแพ ติดกับวัดท่าแพ หมู่ 1 ถนนเพชรเกษม ต.ปากพูน อ.เมืองนครศรีธรรมราช จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.มณเทียร เบ้าทอง ผกก. ,พ.ต.ท.ธีระวุฒิ เทพเลื่อน รองผกก.สส. ,พ.ต.ท.สมเชิญ ทองใหญ่ ผกก.(สอบสวน) ,แพทย์เวรโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช รุดไปที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบว่า อาสาสมัครของมูลนิธิใต้เต็กตึ้ง ได้หย่อนผ้าขาวคลุมศพผู้ตายเอาไว้แล้ว โดยร้อยโทชยพล ทองเทพ หัวหน้าทีมกู้ภัยของมูลนิธิใต้เต็กตึ้ง ระบุกับตำรวจว่า ได้รับแจ้งเหตุพบศพบริเวณดังกล่าว จึงพร้อมด้วยทีมอาสาสมัครเดินทางมาที่เกิดเหตุ พบผู้เสียชีวิตในสภาพคว่ำหน้า สวมเสื้อยืดแขนสั้นคอกลมสีเลือดหมูเพียงตัวเดียว ท่อนล่างอยู่ในสภาพเปลือย
โดยจุดที่ผู้ตายเสียชีวิต อยู่บริเวณร่องเขื่อนที่อยู่ลึกลงไปจากระดับพื้นที่ดิน ทางตำรวจจึงให้ทางทีมกู้ภัย นำเรือไปพาร่างของผู้ตาย ขึ้นมาชันสูตรบนลานดินของวัดท่าแพ จากการตรวจสอบตามร่างกายของผู้ตาย พบร่องรอยการถูกทำร้ายหลายแห่ง โดยเฉพาะขมับด้านซ้าย มีรอยถูกกระแทกด้วยของแข็ง จนกระดูกเบ้าตาร้าว รอยแผลถูกของมีคมตามลำตัวหลายแห่ง คาดว่าเสียชีวิตมาประมาณ 10 ชม.
นอกจากนี้ ยังพบกางเกงขายาวลายพรางทหารของผู้ตายตกอยู่ พบรอยเลือด เป็นหย่อมๆ กระจายหลายจุด มีร่องรอยการต่อสู้ สิ่งของกระจาย หญ้าราบเป็นวงกว้าง
สอบสวนทราบว่าผู้ตายชื่อนายโอเล่ เป็นชาวเมียนมา มาทำงานเป็นลูกเรือประมงอยู่ใน ต.ปากพูนมากว่า 20 ปี ได้ขยับจากลูกเรือเป็นผู้ช่วยไต้ก๋งเรือ ต่อมา เมื่อประมาณ 10 ปีที่ผ่านมา นายโอเล่ ป่วยด้วยโรคเชื้อราขึ้นสมอง ทำให้ตาข้างซ้ายบอดไป 1 ข้าง เมื่อรักษาตัวจนหายเป็นปกติ นายโอเล่ ได้ยุติอาชีพลูกจ้างประจำเรือประมง ได้มาพักอาศัยอยู่ในวัดท่าแพที่เกิดเหตุ คอยช่วยเหลืองานวัดและกิจของสงฆ์ และเรียนรู้งานต่างๆ ภายในวัดมาอย่างต่อเนื่อง ได้รับความไว้วางใจจากเจ้าอาวาส ให้ช่วยงานต่างๆ จนเป็นที่รับรู้กันในชุมชนดังกล่าว ว่า นายโอเล่ชาวเมียนมา ผู้นี้ เป็นมัคทายาก หรือมัคนายก ในทางพฤตินัยของวัดท่าแพ
ขณะที่ ชาวบ้านและพระในวัดดังกล่าว ให้การกับตำรวจว่าเมื่อช่วงกลางคืนที่ผ่านมา ชาวบ้านและพระได้ยินเสียงทะเลาะวิวาท บริเวณดังกล่าว แต่ไม่มีใครเอะใจว่าจะเกิดเหตุร้ายแรงขึ้น กระทั่งช่วงสายของวันนี้ มีผู้ไปพบศพของนายโอเล่ นอนตายอยู่ที่ตะแกรงเหล็กสันเขื่อน
ทั้งนี้ ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องสงสัย เป็นลูกเรือชาวเมียนมา จำนวน 3 คน ที่มาเช่าบ้านพักอาศัยอยู่ติดกับวัด ไปทำการสอบสวนที่ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช หลังการสอบสวนสืบสวนทราบว่า กลุ่มลูกเรือชาวเมียนมา ที่มาทำงานเป็นลูกเรือประมง และเช่าบ้านพักอาศัยอยู่ในย่านดังกล่าว ไม่พอใจนายโอเล่ ที่มักจะดุด่าและไม่ยอมให้ชาวเมียนมาด้วยกันที่ดื่มสุราเข้ามาในเขตวัด ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดว่า ก่อนเกิดเหตุ นายโอเล่ อาจต่อว่ากลุ่มลูกเรือชาวเมียนมาด้วยกันที่ดื่มสุรา จนเป็นเหตุให้ไม่พอใจโกรธแค้น จับนายโอเล่แก้ผ้าแล้ว รุมทำร้ายด้วยของมีคมและของแข็งอย่างโหดเหี้ยม จนเป็นเหตุให้นายโอเล่ มัคนายก ชะตาขาดชาวเมียนมาผู้นี้ เสียชีวิตอย่างอนาถย่างไรก็ตาม
เจ้าหน้าที่ได้ส่งศพนายโอเล่ ไปผ่าชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง ที่แผนกนิติเวช โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.
บทความต้นฉบับ ภาพ-thairath
