หลายคนเคยไปสัมผัสประสบการณ์ประทับใจ สุดทางฝันฝั่งอันดามันเมืองระนอง จังหวัดที่มีสมญานาม “ดินแดนฝนแปดแดดสี่” เมืองเล็กๆ น่ารัก มีสถานที่เที่ยวทั้งเชิงธรรมชาติ เชิงสุขภาพ เชิงวัฒนธรรม ให้เลือกตามความชอบ ที่ขึ้นชื่อเด่นๆ เช่น ธารน้ำแร่ร้อน ภูเขาหญ้าสีทอง น้ำตกหงาว เกาะพยาม คอคอดกระ และ หาดแหลมสน ยาวสุดตา
ระนอง ยังเป็นเมืองชายแดน สามารถเชื่อมต่อไปประเทศเมียนมาที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกันได้สะดวก และจากเกาะแก่งทะเลอันดามัน ฝั่งพม่า ยังลัดเลาะเที่ยวท่องล่องเเรือชมเกาะแก่งทะเลอันดามัน ฝั่งไทย อาทิ เกาะพยาม เกาะกำ อ่าวเขาควาย หรือทะเลแหวก จ.ระนอง หมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา เรียกว่ารอนแรมลอยทะเลกันตั้งแต่เช้า กว่าจะได้ขึ้นฝั่งอาบน้ำจืดก็พลบค่ำ ทริปเช่นนี้เหมาะกับผู้ที่รักหาดทราย สายลม เกลียวคลื่น ท้องทะเล และไม่กลัวไข่เค็ม!!
เริ่มต้นจากตัวเมืองระนอง มุ่งสู่ท่าเรือแกรนด์อันดามัน ทำเอกสารข้ามแดนด้วยบัตรประชาชนใบเดียว แล้วลงเรือเร็วข้ามสู่โรงแรมแกรนด์อันดามัน บนเกาะสน หรือเกาะตะเตชุน ใกล้กับ “วิคตอเรีย พอยท์” จ.เกาะสอง ฝั่งพม่า ที่นี่เป็นโรงแรม 4 ดาว และมีกาสิโนที่เป็นสากล หากใครมาถึงช่วงเช้า ลุยเที่ยวต่อได้เลย ถ้าใครมาถึงช่วงเย็น ต้องนอนค้างสัก 1 คืน ถ้านอนไม่หลับแนะให้ลองแวะไปเสี่ยงโชคเล่นๆ บอยธนวัฒน์ ชาวสมุทร กรรมการผู้จัดการ แกรนด์อันดามัน ทราเวล ธุรกิจร่วมเครือฯ เล่าว่า เดิมโรงแรมนี้ชื่ออันดามันคลับ หลังจากผู้บริหารรายใหม่ที่เป็นนักธุรกิจชาวระนอง เข้ามาเทกโอเวอร์ กิจการได้เปลี่ยนชื่อเป็นแกรนด์อันดามัน จึงต้องการลบภาพลักษณ์เดิมๆของกาสิโน เพื่อให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวของครอบครัวอย่างสมบูรณ์แบบ
นอกจากโรงแรมและกาสิโน ที่นี่ยังมีสนามกอล์ฟมาตรฐาน, ร้านดิวตี้ฟรี, กิจกรรมแอดเวนเจอร์อาทิ ขับรถเอทีวี เครื่องเล่นซิปไลน์ พายเรือคยัค ไว้ให้บริการด้วย ต่อมาเมื่อได้รับสัมปทานดูแลเกาะอนุรักษ์แห่งอื่นๆเพิ่มจากทางการพม่า จึงได้จัดทริปดำน้ำชมปะการัง ทั้งแบบเช้าไปเย็นกลับ และแบบ 3 วัน 2 คืน เพิ่มเข้ามาด้วยบอย ย้ำว่า การมาเที่ยวทะเลอันดามัน ฝั่งพม่า
ถึงอย่างไรก็ต้องผ่าน จ.ระนอง ซึ่งฝั่งไทยจะได้รับอานิสงส์ไปด้วย ทั้งการขนส่ง ร้านอาหาร และธุรกิจอื่นๆที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะที่พัก เพราะโรงแรมแกรนด์อันดามัน มีห้องพักจำกัด ยิ่งช่วงวันหยุดจะรับได้แค่ 20 ห้องเท่านั้น ฉะนั้นอีก 80 เปอร์เซ็นต์ จะกระจายไปยังโรงแรมแห่งอื่นๆในพื้นที่จากท่าเรือโรงแรม เราเปลี่ยนไปนั่งสปีดโบ๊ต ท่องเที่ยวตามเกาะต่างๆ อาทิ เกาะฮอร์สชู (Horse Shoe) จุดแรกในการดำน้ำแบบสน็อกเกอริ่งของทริป เกาะนี้เป็นเกาะสัมปทานรังนกของคนพม่า ไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเหยียบชายหาด ระดับน้ำแถวนี้มีความลึก 2-3 เมตรเท่านั้น แค่ก้มหน้ามองผ่านหน้ากากดำน้ำก็ได้เห็นปะการังสมอง ปะการังเขากวาง และฝูงปลาสีสวยประจำถิ่นว่ายหากินกันชิลๆ
ถัดมาหยุดแวะที่เกาะตาฟุก (Dunkin Island) เกาะขนาดย่อมที่มีพันธุ์ไม้ป่าดิบชื้นขึ้นปกคลุมหนาแน่น โดยเฉพาะไม้เรือนได้เห็นหาดทรายขาวละเอียดทอดตัวเป็นแนวโค้งยาว ตัดกับน้ำทะเลสีเทอร์ควอยซ์ใสแจ๋ว มองเห็นปะการังและฝูงปลาหลากสีนานาพันธุ์แหวกว่ายกันเริงร่าพอก้าวเท้าลงจากเรือสัมผัสบนทรายนุ่มๆ
เราเดินทางสู่ เกาะหัวใจมรกต (Cock’s Comb) ตัวเกาะขนาดใหญ่ ปกคลุมด้วยต้นไม้เขียวขจี มีแนวสันเขารูปหัวใจ โอบล้อมผืนน้ำสีเขียวมรกตไว้เบื้องล่าง ซึ่งต้องมองจากมุมสูงถึงจะเห็นหัวใจทั้งดวง โดยทางทัวร์มีแนวคิดจะนำเรือลากร่มชูชีพมาให้บริการนำนักท่องเที่ยวขึ้นไปชมภาพมุมสูงด้วยทางเข้า-ออกหัวใจมรกต มีเพียงทางเดียวและต้องว่ายน้ำเข้าไปเท่านั้น จะมีเชือกโรยไว้ให้นักดำน้ำใช้พยุงตัวขณะว่ายผ่านอุโมงค์ เมื่อเข้าไปข้างในจะไม่มีหาดทรายมีแค่แพไม้ไผ่ที่ผูกไว้ให้ยืนพักเหนื่อย ระดับน้ำไม่ลึกมากแค่ 2-3 เมตร แต่มีกับดักเป็นเจ้าหอยเม่นหนามแหลมตัวอันตราย อย่าเผลอไปเหยียบมันเข้าเชียวภายในหัวใจมรกต คือระบบนิเวศอันสมบูรณ์ของอาณาจักรปะการังและดอกไม้ทะเล เปรียบเสมือนป่าดงดิบแห่งท้องทะเล เป็นบ้านของปลาหลากสายพันธุ์ ช่วงที่ว่ายน้ำผ่านเข้าปากอุโมงค์ จะมีฝูงปลานับหมื่นตัวมารวมกันเป็นกลุ่มก้อน เพื่อหลบบรรดานักล่าผู้หิวโซ จากภาพถ่ายใต้น้ำที่ทีมงานคุณบอยถ่ายไว้ ยืนยันได้ว่าน่าตื่นตาตื่นใจแค่ไหน ยิ่งถ้าวันที่คลื่นลมเป็นใจ ทะเลไม่พิโรธ อาจเห็นกระเบนแมนตา และฉลามวาฬ มาว่ายโชว์โฉมให้ดูเป็นขวัญตา
ใครอยากไปส่องหัวใจมรกต กลางทะเล อันดามันกับหวานใจ ช่วงฤดูกาลนี้เหมาะสุดๆ ฟ้าสวย น้ำใส คลื่นลมสงบ วันลาพักร้อนเหลือเยอะ และโบนัส (คง) ยังไม่หมด ลองหาข้อมูลกันเอาเองที่ www.grandandamantravel.com
เรื่อง – 77kaoded.com / ขอบคุณภาพจาก – ตามติดชีวิตนักข่าว
ศาลจ้าวพ่อตาปะขาว ปากน้ำสิชล