นครศรีธรรมราช – คนร้ายบุกงัด “หอพระอิศวร” เทวสถานสำคัญคู่เมืองนครศรีธรรมราช เป็นครั้งที่ 2 แต่ยังจับตัวไม่ได้ หวั่นเทวรูปพันปีถูกใบสั่งจากนักสะสมให้มาโจรกรรม
ตำรวจภูธรเมืองนครศรีธรรมราช เข้าตรวจสอบบริเวณหอพระอิศวร ริมถนนราชดำเนิน ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช หลังรับแจ้งเหตุคนร้ายบุกเข้าไปงัดหอพระอิศวร เทวสถานโบราณ สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองชาวนครศรีธรรมราช
ที่เกิดเหตุ พบท่อนท่อเหล็กงัดกุญแจคาอยู่ที่ประตูไม้แบบโบราณจนได้รับความเสียหาย แต่พบว่ายังไม่สามารถเข้าไปภายในตัวหอพระอิศวรได้ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการตรวจสอบภายในหอพระอิศวร ไม่พบว่ามีอะไรสูญหาย ทั้งเทวรูปพระอิศวร ศิวลึงค์ และ พระพิฆเนศวร ซึ่งเป็นที่เคารพบูชาของผู้ที่มีเชื้อสายพราหมณ์ดั้งเดิมชาวนครศรีธรรมราช และผู้ศรัทธาโดยทั่วไป โดยเฉพาะเทวรูปและศิวลึงค์ที่มีอายุนับพันปี ไม่สามารถประเมินค่าได้ ยังอยู่ครบ
นายวัชระ สุวรรณรัตน์ เจ้าหน้าที่สำนักศิลปากรที่ 12 ผู้ดูแล เล่าว่า ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้ว ที่คนร้ายเข้ามางัดหอพระอิศวร โดยครั้งแรกงัดเข้าไปโจรกรรมตู้เงินบริจาคที่ผู้มีจิตศรัทธาหยอดไว้ ซึ่งคนร้ายได้ยกไปทั้งตู้ จึงไม่ทราบว่ามีเงินอยู่ในตู้เท่าไหร่ ซึ่งครั้งนั้นยังจับตัวคนร้ายไม่ได้ ส่วนครั้งนี้น่าจะเป็นคนร้ายรายเดิมที่ย้อนกลับมาก่อเหตุอีกครั้ง แต่คาดว่าขณะพยายามจะงัดประตูในช่วงดึก อาจมีคนมาพบเห็น จึงทิ้งอุปกรณ์หลบหนีไป
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้หลายฝ่ายกังวลอย่างมาก เกรงว่าเทวรูป และศิวลึงค์ ที่มีอายุนับพันปี และมีความสำคัญในทางประวัติศาสตร์ เชื่อมโยงกับพราหมณ์ที่เคยเจริญรุ่งเรืองในแถบชายฝั่งคาบสมุทรทะเลใต้ ก่อนที่ศาสนาพุทธจะเจริญรุ่งเรืองในยุคถัดมา และยังเป็นต้นสายของพราหมณ์ราชสำนักในกรุงรัตนโกสินทร์ จึงอาจเป็นที่หมายตาของนักสะสมเทวรูปโบราณ และมีใบสั่งให้มาขโมย อยากให้ตำรวจเร่งติดตามจับตัวคนร้ายให้ได้โดยเร็ว และหลังจากนี้คงต้องเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยให้มากยิ่งขึ้น
