“พรรคสร้างอนาคตไทย” ลงพื้นที่ เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส.นครศรีธรรมราช

อุตตม-สนธิรัตน์-นิพิฎฐ์ นำ“สร้างอนาคตไทย” ลงพื้นที่นครศรีธรรมราช เปิดฉากเข้าโหมดพร้อมเลือกตั้ง
เปิดตัวนายถาวรวัฒน์ คงแก้ว อดีต รอง ผวจ.นครศรีธรรมราช และ นส.วาริน ชิณวงศ์ อดีตประธานหอการค้าจังหวัดนครศรีธรรมราช เตรียมประกาศลงสมัคร สส.

ช่วงบ่ายที่ผ่านมา ที่หอประชุมสถาบันการเงินชุมชนบ้านวังไทร อำเภอทุ่งสง นครศรีธรรมราช นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย พร้อมด้วยนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคและประธานภาคใต้ พร้อมด้วยทีมบริหารพรรคสร้างอนาคตไทย เดินทางลงพื้นที่ โดยมีนายถาวรวัฒน์ คงแก้ว อดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช และนางสาววารินทร์ ชินวงศ์ อดีตประธานหอการค้าจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งกำลังถูกจับตามองว่าจะเป็นผู้สมัคร สส.ของจังหวัดนครศรีธรรมราช

โดยนายถาวรวัฒน์ คงแก้ว อดีตรองผู้ว้าชการจังหวัดนครศรีธรรมราช จะลงสมัครในแถบอำเภอช้างกลาง ฉวาง ทุ่งสง ส่วนนางสาววารินทร์ จะลงสมัครในย่านแถบลุ่มน้ำปากพนัง ซึ่งยังอยู่ในระหว่างการติดตามการแบ่งพื้นที่จัดเขตเลือกตั้งยังไม่แล้วเสร็จ

โดยการลงพื้นที่ของพรรคสร้างอนาคตไทยวันนี้มีกลุ่มผู้ประกอบอชีพจำนวน 15 กลุ่มอาชีพในท้องถิ่น รวมทั้งประชาชนที่ให้ความสนใจจำนวนมาก เข้าร่วมพบปะและรับฟังทิศทางแนวนโยบายของพรรค โดยได้มีข้อเสนอจากกลุ่มอาชีพ ให้เร่งส่งเสริมอาชีพรากหญ้า พัฒนาและยกระดับผลิตภัณฑ์ชุมชน เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม แก้ปัญหาปากท้อง ความเป็นอยู่ สภาพเศรษฐกิจให้เกิดผลกับประชาชน

นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย ระบุว่า การเดินทางมาที่สถาบันการเงินชุมชนบ้านวังไทร เพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชนนำไปสังเคราะห์ นำไปประกอบกับนโยบายหลักของพรรค ที่มุ่งเน้นในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ และกิจกรรมต่างๆของสถาบันการเงินบ้านวังไทร ก็เป็นโมเดลต้นแบบที่ดีในการนำไปต่อยอดพัฒนาแนวคิดใหม่ๆที่จะทำให้นโยบายที่ออกมาสามารถตอบโจทย์ความต้องการของพี่น้องประชาชนได้อย่างแท้จริง โดยเฉพาะแนวการบริหารจัดการของสถาบันการเงินที่นี่จะเผชิญกับปัญหามากมายในช่วงสองปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะผลกระทบที่ได้รับจากการระบาดของโควิด แต่สถาบันการเงินแห่งนี้กลับมียอดสินทรัพย์เพิ่มขึ้น จากการดำเนินกิจกรรมที่เข้มแข็งในพื้นที่เป็นจุดแข็งที่สำคัญ

“แนวนโยบายที่มุ่งเน้นการสร้างเศรษฐกิจที่เข้มแข็งต้องเริ่มจากชุมชน แต่หลายอย่างต้องต่อยอดพัฒนาสิ่งที่มีอยู่ ภาคใต้มีศักยภาพแต่ยังไม่สามารถศักยภาพตัวเองมาใช้ได้อย่างเต็มที่ ต่อยอดศักยภาพที่มีอยู่ ทั้งการเกษตร การท่องเที่ยว และภาคอุตสาหกรรม โดยพรรคมีบุคลากรที่มีความพร้อมและเชี่ยวชาญการทำงานด้านฐานราก

ขณะที่นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย กล่าวว่าแนวนโยบายได้ให้ความสำคัญต่อพืชเศรษฐกิจ อย่างปาล์มน้ำมันและยางพารา ครั้งที่เราได้ทำงานร่วมกันในรัฐบาล ได้ร่วมกันผลักดันนโยบายดังกล่าว ซึ่งขณะนั้นราคาปาล์มน้ำมันอยู่ที่ 3.50-4 บาทต่อกิโลกรัม แต่ก็เป็นเพียงราคาในระดับที่เกษตรกรอยู่ได้ แต่ยังไม่ถึงกับมีเงินเหลือ จึงผลักดันนโยบายน้ำมันบี 10 เพื่อเพิ่มการใช้ปาล์มน้ำมันในภาคพลังงาน และนับเป็นจุดเริ่มให้ราคาปาล์มน้ำมันขึ้นไปจนถึง 7 บาทต่อกิโลกรัม และทะลุถึง 12 บาทต่อกิโลกรัมในปัจจุบัน ซึ่งพรรคทราบดีว่าปาล์มน้ำมันและยางพาราเป็นหัวใจสำคัญของเศษฐกิจภาคใต้ พรรคมีความพร้อมในการทำนโยบายดังกล่าว พรรคมีความเขี่ยวชาญในนโยบายปาล์มน้ำมันและยางพาราที่จะทำให้พี่น้องชาวใต้ที่เป็นเกษตรกรปลูกปาล์มและปลูกยางมีชีวิตที่ดีขึ้น และต่อจากนี้จะประกาศนโยบายยางพาราต่อไป

“สำหรับผู้สมัครในภาคใต้ ตอนนี้ยังไม่ถือว่าครบ เพราะว่าพรรคสร้างอนาคตไทยไม่ได้เน้นว่าจะส่งผู้สมัครให้ได้มากที่สุดแต่เราเน้นคุณภาพของผู้สมัคร อย่างเช่นที่นี่ เรามีอดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ถาวรวัฒน์ คงแก้ว มาเป็นตัวแทนของพรรคในอนาคต ซึ่งเราคัดคนที่ใช่ที่สุดที่จะทำหน้าที่แทนพี่น้องประชาชน และวันนี้เรามีผู้สนใจจำนวนมากและพรรคก็กำลังพิจารณาในรายละเอียด ขอย้ำว่า พรรคไม่ต้องการเพียงแค่ปริมาณแต่ต้องเป็นคนที่สร้างพลังต่อการทำงานการเมืองในการร่วมกันสร้างอนาคตไทยได้” นายสนธิรัตน์ ระบุ.

#ชัดกว่าที่นึก_ลึกกว่าที่คิด