จ.นครศรีธรรมราช เมื่อ 13 พฤศจิกายน 2565 มีรายงานว่าหลังจากวานนี้นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เปิดตัวผู้สมัคร สส.ของพรรคในจังหวัดนครศรีธรรมราช 8 คน ในทั้งหมด 9 คน ที่ยังคงเว้นไว้ 1 คนหลังจากนางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล สส.ของพรรคได้แจ้งการตัดสินใจในเส้นทางการเมือง ที่จะลาออกจากสมาชิกพรรคแล้วไปร่วมกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งได้สร้างแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ให้กับพรรคประชาธิปัตย์ในภาคใต้
ขณะที่นายพงศ์สินธุ์ เสนพงศ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์เมื่อคราวเลือกตั้งซ่อมครั้งที่ผ่านมาหลังจากที่นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.ประชาธิปัตย์หลายสมัยผู้เป็นพี่ชายได้ต้องคดี ซึ่งถูกคาดหวังว่าจะเป็นผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์อีกครั้งในพื้นที่อำเภอชะอวด และใกล้เคียงกลับไม่ได้มีชื่อเป็นผู้สมัครของพรรค โดยก่อนหน้านี้นายชัยชนะ เดชเดโช รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้แถลงประกาศผลโพลท์สำรวจความนิยมไปตกอยู่ที่นายยุทธการ รัตนมาศ อดีตรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ที่เคยตกเป็นข่าวดังกรณีทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ อบจ.เป็นผู้ชนะ ขณะที่นายพงศ์สินธุ์ ได้ประกาศไม่ยอมรับผลโพลท์ดังกล่าวจากความผิดปกติหลายประการ และยังยืนยันที่จะลงสมัครต่อไป โดยได้รอการประกาศตัวให้เป็นที่สิ้นสุดจนกระทั่งวานนี้ไม่ปรากฎชื่อของนายพงศ์สินธุ์แล้วอย่างชัดเจน
ความคืบหน้าที่สร้างแรงกระเพื่อมให้กับประชาธิปัตย์อีกครั้งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (13 พ.ย) นายพงศ์สินธุ์ เสนพงศ์ ได้ประกาศผ่านหน้า FB ส่วนตัวอีกครั้ง โดยระบุชัดว่าครอบครัวเสนพงศ์ทุกคนขอลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์
โดยระบุว่า นับว่าเป็นความชัดเจนที่พรรคประชาธิปัตย์ เปิดตัวผู้สมัครส.ส.นครศรีธรรมราช อย่างเป็นทางการ โดยไม่มีชื่อของผมพงศ์สินธุ์ เสนพงศ์ต่อจากนี้ไป ผมขอประกาศตัดสินใจทางการเมืองด้วยตัวของผมเอง เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ได้ตัดสินใจมีมติไม่ส่งผมลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.ในนามพรรคแล้ว ทั้งที่ผมเคยเป็นผู้สมัครเก่าของพรรคในการเลือกตั้งซ่อม และมีพี่ชายคือคุณเทพไท เป็นอดีตส.ส.ของพรรค 4 สมัย ได้ทำหน้าที่ปกป้องพรรค พิทักษ์อุดมการณ์พรรค ต่อสู้ให้กับพรรคอย่างเข้มแข็ง ได้ยืนหยัดต่อสู้กับระบอบทักษิณ จนถูกฟ้องมีคดีความ 23 คดี
แต่พรรคประชาธิปัตย์กลับไม่ให้ความสำคัญ ไม่เห็นคุณค่าของนักสู้ของพรรค ตัดสิทธิ์สมาชิกของครอบครัวตระกูลเสนพงศ์ ลงสมัครเลือกตั้งส.ส.ในเขตเลือกตั้งเดิมเลยแม้แต่คนเดียว แต่กลับให้สิทธิ์กับตระกูลอื่นลงสม้ครรับเลือกตั้งส.ส. ตระกูลละ2คน ถือได้ว่าเป็นการไม่ให้เกียรติกับคนที่เคยต่อสู้ให้กับพรรคประชาธิปัตย์
เมื่อแนวทางการเมืองของพรรคเป็นเช่นนี้ ผมจึงจำเป็นต้องพิจารณาตัวเอง ด้วยการลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคทันที ขอยืนยันว่าสมาชิกในครอบครัวตระกูลเสนพงศ์ ไม่ได้ทิ้งพรรคประชาธิปัตย์ แต่พรรคประชาธิปัตย์ต่างหาก ที่ทอดทิ้ง ไม่ให้โอกาสสมาชิกของคนในตระกูลเสนพงศ์ เมื่อเป็นเช่นนี้สมาชิกในครอบครัวทั้งหมด จะยื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีความผูกพันมายาวนาน แม้ว่าจะไม่ใช่เป็นตระกูลดั้งเดิม หรือสืบทายาทมาจากรุ่นพ่อก็ตาม แต่ครอบครัวตระกูลเสนพงศ์ ได้เป็นผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ มาตั้งแต่สมัยรุ่นพ่อ ที่เป็นหัวคะแนนให้กับผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ทุกคน จนมาถึง สมัยคุณเทพไท เสนพงศ์ ได้ลงสมัครส.ส.เมื่อปี 2548
บัดนี้สมาชิกในครอบครัวตระกูลเสนพงศ์ ได้ตกลงใจพร้อมกัน ขอลาออกจากการเป็นสมาชิกของพรรคประชาธิปัตย์ โดยผมจะยื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกต่อนายทะเบียนพรรค(นายวิรัชร่มเย็น) ในสัปดาห์นี้ พร้อมกับคืนเสื้อแจ็คเก็ต ที่นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฎ์ ได้สวมให้ในวันประกาศส่งสมัครเลือกตั้งซ่อมเขต3 นครศรีธรรมราชด้วย นายพงศ์สินธุ์ ระบุ.
