‘ต้นน้ำตาพระศิวะ’ ไม้มงคลอายุนับหลายร้อยปี มีอยู่จริงในนครศรีธรรมราช

14565
views
ต้นรุทรักษะ

เมื่อวันที่ ๘ มกราคา ๒๕๖๓  คุณภูมิ จิระเดชวงศ์ ได้โพสต์เกี่ยวกับไม้มงคล ต้นไม้หายาก ต้นรุทรักษะ หรือ ต้นน้ำตาพระศิวะ มีอยู่จริงในนครศรีธรรมราช ไม่น่าเชื่อว่านครศรีธรรมราชจะมีต้นไม้มงคลนี้อยู่ จำนวนมาก อายุนับหลายร้อยปี

ต้นรุทรักษะ

มหัศจรรย์ในวันแห่งการสำรวจเมืองแห่งขุนเขา

ต้นไม้ชนิดนี้ มีได้อย่างไร ในขุนเขาแห่งนครศรีธรรมราช

ต้นรุทรักษะ

เมล็ดพืชมงคลตามความเชื่อของศาสนาพราหมณ์ ใครนำเข้ามาปลูกที่นครศรีธรรมราช ซึ่งต้นรุทรักษะนี้จะขึ้นที่เทือกเขาหิมาลัยหรือเขาไกรลาสประเทศเนปาล ศรีนคร แคชเมียร์ และบางส่วนทางอินเดียตอนใต้ ศรีลังกาและเกาะชวา ประเทศอินโดนีเซีย แต่ทำไมถึงขึ้นอยู่มากมายในขุนเขาของนครศรีธรรมราช

เรื่องราวของประวัติศาสตร์บ้านเมือง บางเรื่องนั้นก็ซ่อนอยู่ในขุนเขา ติดตามอ่านเรื่องราว ต้นรุทรักษะ หรือ ต้นน้ำตาพระศิวะ มีอยู่ได้อย่างไรบนขุนเขานครศรีธรรมราช

ต้นรุทรักษะ

อนึ่ง.. ตามความใน อิศวรปุราณะ ได้กล่าวถึงต้นไม้ชนิดหนึ่งที่มีผลลักษณะพิเศษซึ่งเป็นที่โปรดปรานขององค์พระอิศวรเจ้าและเหล่าบริวาร ‘ครั้งหนึ่งพระแม่ลลิตาทรงทูลถาม องค์พระอิศวรเจ้า ถึงความสำคัญของเมล็ดรุทรักษะ ซึ่งองค์พระอิศวรเจ้า และเหล่าบริวารขององค์พระอิศวรเจ้าใช้สวมใส่และประดับประดาตามร่างกาย ทรงให้คำตอบกับพระแม่ลลิตาว่าเมื่อครั้งพระองค์ได้ปฏิบัติถือศีลสมาธิกรรมฐานเป็นเวลาหลายพันปี พลันทรงสดับรับรู้และเห็นความทุกข์เข็ญของเหล่ามนุษย์ทั้งปวงที่ยังคงลุ่มหลงอยู่ในบาป

ด้วยความเวทนาในชะตากรรมของมนุษย์เหล่านั้นก็บังเกิดน้ำพระอัสสุชล(น้ำตา)ของพระองค์ไหลหยดจากพระเนตรที่หลับไหลลงมาบนโลกมนุษย์ และเมื่อน้ำพระอัสสุชล(น้ำตา)ขององค์พระอิศวรเจ้าหยดถึงพื้นดินก็ได้บังเกิดเป็นต้นไม้ชนิดหนึ่งขึ้น

ต้นรุทรักษะ

ทรงอำนวยพรให้กับต้นไม้ที่ถือกำเนิดขึ้นนั้นเป็นต้นไม้มงคลและพระราชทานนามให้ต้นไม้มงคลนี้ว่าต้นรุทรักษะ ต้นไม้เหล่านี้เจริญงอกงามในดินแดนแถบ เกาฑะ, มลัย, มธุรา, ลังกา, อโยธยา, ภูเขา, สหยะและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ โดยมากมักพบในแถบเชิงเขาหิมาลัยเป็นส่วนมาก

จากการศึกษาค้นคว้าของพราหมณ์ชาคริต พบว่าต้น รุทรักษะอาจจะมีต้นกำเนิดจากประเทศในหมู่เกาะฟิลิปปินส์และแพร่ขยายไปสู่ประเทศพม่าและประเทศอินเดียในที่สุดโดยมีความเชื่อว่าเมล็ดรุทรักษะสามารถทำลายบาปได้ เมล็ดรุทรักษะมีหลายขนาดทั้งขนาดเล็กเท่าเมล็ดพุทราหรือขนาดใหญ่เท่าลูกสมอต่างก็ถือว่าได้รับคุณวิเศษเช่นเดียวกัน

ต้นรุทรักษะ

โดยมีการกล่าวกันว่าไม่มีสร้อยประคำหรือสายสร้อยคออื่นใด หรือพวงมาลัยใดที่จะนำสิริมงคลและความสำเร็จ สมปรารถนาเท่ากับการบุคคลผู้นั้นได้สวมใส่เมล็ดรุทรักษะ ก่อนที่จะมีการสวมใส่เมล็ดรุทรักษะเป็นครั้งแรกนั้น มีความเชื่อว่าหากจะให้เมล็ดรุทรักษะดังกล่าวเกิดพลังความมงคลพิเศษควรจะต้องผ่านพิธีตามคัมภีร์ซึ่งนำมากล่าวถึงเพียงบางส่วนก่อนที่จะนำมาสวมใส่คือต้องชำระล้างเมล็ดรุทรักษะด้วยน้ำคงคา,น้ำแช่เกษรดอกบัวหลวง,น้ำผึ้งป่า เป็นต้น หลังจากนั้นถวายบูชาด้วยดอกดาวเรือง,ดอกกุหลาบแดง,ใบพลู,ผลไม้,ใบมะตูม,ผงเจิมสีแดงและขาว,น้ำมันจันทน์ พร้อมธูปหอมกำยานจุดถวาย

ที่สำคัญคือเมล็ดรุทรักษะดังกล่าวต้องได้รับการสวดสาธยายมนต์โดยพราหมณ์ถวายปราณต่อเมล็ด รุทรักษะ ๑๐๘ จบแล้วหรือหากประกอบพิธีเองก็สามารถทำได้แต่ควรสวดมนต์เฉพาะของรุทรักษะแต่ละหน้าอย่างน้อย ๙ จบก่อน ซึ่งโดยมากที่มีอยู่ทั่ว

 
ถมนคร : คุณค่าที่คู่ควร ถมนคร, thomnskhon
 
SHARE