จากกรณีการติดตามการแก้ไขปัญหาก้อนน้ำมันจำนวนมากที่ทะเลอ่าวหัวไทร อำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช สถานการณ์ด้านสิ่งแวดล้อมยังคงวิกฤตอย่างมาก
ล่าสุด วันที่ 4 มี.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณทะเลหน้าหาดแพรกเมือง ตำบลหน้าสตน อำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช เต็มไปด้วยตะกนอนน้ำมันที่ถูกกระแสน้ำพัดมารวมตัวกันในทะเลหน้าหาด ขณะที่คลื่นได้อ่อนกำลังลงทำให้ตะกอนน้ำมันจมตัวหน้าหาด บางส่วนยังถูกซัดขึ้นมาเกยหาดในช่วงที่ลมแรงเป็นระยะ โดยตะกอนน้ำมันที่จมตัวเช่นนี้ยังเป็นปัญหาใหญ่ที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้
ส่วนการติดตามกลุ่มแพนน้ำมันขนาดใหญ่ที่ถูกพบเมื่อ 2 วันก่อนที่บริเวณอ่าวบ้านบางดี อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช พบว่ามีทิศทางที่กำลังมุ่งหน้าไปยัง เกาะสมุยและเกาะพงัน โดยเรือประมงจำนวนมากพยายามค้นหาเนื่องจากหลุดจากสายตาไปตั้งแต่ 2 วันก่อน โดยเจ้าหน้าที่กำลังติดตาม ซึ่งคาดว่าด้วยอากาศที่ร้อนจัดอุณหภูมิผิวน้ำเพิ่มมากขึ้นอาจทำให้ก้อนน้ำมันแตกตัวและจมตัวลงก่อนที่จะเกยหาดโดยยังไม่รู้ว่าแนวที่จมตัวตัวสร้างความเสียหายให้กับนิเวศบริเวณใด
และในวันเดียวกันนายสนธัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้เดินทางมายังนครศรีธรรมราช และได้ใช้เฮลิคอปเตอร์บินจากศูนย์ขนส่งทางอากาศบริษัทเชฟรอนสำรวจและผลิตประเทศไทยจำกัด พร้อมด้วยนายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช นายไพโรจน์ กวียานันท์ ผู้บริหารบริษัทเชฟรอนประเทศไทย บินตรงมุ่งหน้าไปยังแท่นขุดเจาะและผลิตปิโตรเลียมเอราวัณ กลางอ่าวไทย เพื่อติดตามกระบวนการขุดเจาะและการผลิตปิโตรเลียม ซึ่งมีรายงานว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานได้ให้ความสนใจกับปัญหาก้อนนย้ำมันจำนวนมากที่กระจายอยู่หน้าอ่าวนครศรีธรรมราชที่ยังหาที่มาไม่ได้
ส่วนทางด้านนายสันธนะ จันทร ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขานครศรีธรรมราช ได้ออกประกาศขอความร่วมมือชาวประมงแจ้งเบาะแสในการกระทำความผิดของใครก็ตามที่ก่อเกิดผลกระทบต่อการเดิน ก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม โดยให้ผู้ที่มีทำกิจกรรมกาลางทะเลทุกประเภทแจ้งเบาแสการกระทำความผิดให้กับเจ้าท่าภูมิภาคสาขานครศรีธรรมราชเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
ศาลจ้าวพ่อตาปะขาว ปากน้ำสิชล