สรุปสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศเพื่อนบ้านอาเซียนล่าสุดเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2563 โดยประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 35 ราย มีผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 212 ราย เสียชีวิต 1 ราย
ฟิลิปปินส์ พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 15 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 202 ราย เสียชีวิต 14 ราย ขณะที่ประธานาธิบดีดูเตเต้ ได้ประกาศหยุดยิงฝ่ายเดียวกับกลุ่มกองกำลังคอมมิวนิสต์ฟิลิปปินส์ เพื่อทุ่มเทสรรพกำลังให้กับการแก้ปัญหาโรคระบาด
มาเลเซีย พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในวันเดียว 117 ราย ยอดรวมสะสมเพิ่มเป็น 790 ราย เสียชีวิต 2 ราย โดยมาตรการจำกัดการเดินทางของประชาชนเริ่มเห็นผล โดยถนนหนทางส่วนใหญ่เงียบสงบไม่มีการสัญจรของประชาชน
อินโดนีเซีย พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 55 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยสะสมที่ 227 ราย เสียชีวิต 19 ราย หรือมากที่สุดในอาเซียน โดยกระทรวงสาธารณสุขแถลงว่า จำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นมาจากการตรวจหาเชื้อมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ในบางจังหวัดก็ยังมีปัญหาบุคคลากรทางการแพทย์ไม่เพียงพอ รวมทั้งขาดแคลนหน้ากากอนามัย
สิงคโปร์ มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 47 ราย ทำให้ยอดสะสมอยู่ที่ 313 ราย ยังไม่มีผู้เสียชีวิต เวียดนาม พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 8 ราย รวมยอดสะสม 76 ราย โดยที่เพิ่มขึ้นเป็นชาวเวียดนามที่เดินทางกลับจากประเทศในยุโรปและนักท่องเที่ยวจากยุโรป แต่ที่น่าสนใจคือ
เวียดนามมีมาตรการในการรองรับชาวเวียดนามที่ต้องการกลับมาจากประเทศยุโรปและอาเซียนที่คาดว่าจะมีถึง 7000 คน โดยจะมีการตรวจคัดกรองอย่างละเอียดที่สนามบินต่างๆ ก่อนจะส่งไปยังสถานกักกันโรคที่รัฐบาลเตรียมไว้ ขณะที่รัฐบาลได้ยกเลิกวีซ่าให้กับชาวต่างชาติทั้งหมดแล้ว
บรูไน พบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอีก 2 ราย ทำให้ยอดสะสมอยู่ 56 ราย กัมพูชา ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 2 ราย ทำให้มีผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 35 ราย
ส่วนลาว และ เมียนมา ยังคงไม่มีรายงานอย่างเป็นทางการ ว่าพบผู้ติดเชื้อ
สายลุยเตรียมพร้อมก่อนไป “เดินป่า” อ่านจบรู้เรื่อง