มทภ.4 พร้อม ผบ.ทร.ภ.3 ผู้ว่าฯ ภูเก็ต นำกำลังพลร่วมบิ๊กคลีนนิ่ง ซอยบางลา ป่าตอง ฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อ กำจัดเชื้อไวรัส โควิด-19 ส่งทหารควบคุมยิบ พบฝ่าฝืนเคอร์ฟิว สั่งดำเนินคดีทันที พร้อมบังคับใช้กฎหมายเต็มที่ เพราะภูเก็ตเป็นจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูง นายกฯ จึงให้ความห่วงใย ด้านผู้ว่าฯ สั่งปิดสถานบันเทิงป่าตองทั้ง 6 แห่ง
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 3 เม.ย.63 พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 เป็นประธานในพิธีเปิดทำความสะอาดซอยบางลาป่าตอง ร่วมฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดโรค COVID-19 โดยมี พล.ร.ท.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 พล.ต.ท.จิรวัฒน์ ทิพยจันทร์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าฯ ภูเก็ต นางสาวเฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมกิจกรรม
พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า รัฐบาลมีความเป็นห่วงสถานการณ์โรคโควิด-19 ที่จังหวัดภูเก็ต รัฐบาลได้กำหนดเวลา เคอร์ฟิวการงดออกจากเคหสถาน จะมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างชัดเจน ใครฝ่าฝืนทำผิดต้องดำเนินการ ไม่อย่างนั้นไม่สามารถหยุดตัวเลขได้
“เราไม่อยากเหมือนอิตาลีหรือเมืองที่ตัวกราฟตั้ง เพราะที่ภูเก็ตสูงเป็น 100 แล้ว ซึ่งในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ จังหวัดภูเก็ตถือว่ามีตัวเลขสูงมาก ดังนั้น นายกรัฐมนตรี เป็นห่วงมาก จึงได้มอบให้แม่ทัพภาคที่ 4 และทุกส่วนลงมาช่วยผู้ว่าฯ ที่สำคัญ ชาวภูเก็ตต้องช่วยกัน ขอยืนยันตรงนี้หน้าบ้านใครหน้าบ้านท่านต้องออกมาแล้ว ออกมาทำความสะอาด เพราะที่ผ่านมา พบว่ายังมีการแอบจัดปาร์ตี้เล็กๆ น้อยๆ เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดตรงนี้ สุดท้ายทุกคนรู้ความจริงกัน และเมื่อวานนี้ มีนักท่องเที่ยวประสบอุบัติเหตุที่ภูเก็ต พบว่าเกี่ยวข้องโควิด-19 ทำให้ต้องกักคนอีกจำนวน 130 คน ถ้าบอกความจริงกันจะเป็นการช่วยบุคลากรทางการแพทย์ได้เป็นอย่างมาก” แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าว
พล.ท.พรศักดิ์ กล่าวด้วยว่ากองทัพภาคที่ 4 ส่งกำลังลงมาช่วยที่ ภูเก็ต ประกอบด้วย กำลังจากสารวัตรทหาร กองร้อยช่วยเหลือประชาชน ดำเนินการเป็นขั้นๆ ไป ตอนนี้เริ่มเคอร์ฟิวจะใช้กำลัง สห.โดยให้รองผู้ว่าฯ ฝ่ายทหาร คือ รอง ผอ.รมน.กำหนดหลัก ส่วนตนและ แม่ทัพเรือ ผู้บัญชาการตำรวจภาค 8 จะคอยสนับสนุน ดูพื้นที่เริ่มที่ป่าตองและดูทุกพื้นที่ สำคัญที่สุดประชาชนต้องให้ความร่วมมือ ทหารจะบังคับใช้ตามกฎหมาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินบังคับคนให้อยู่บ้านช่วยชาติ ออกมาทำความสะอาดหน้าบ้านด้วย ถ้าผู้ใดฝ่าฝืนจับกุมดำเนินคดี ถ้าพบเห็นผู้ฝ่าฝืนขอให้ประชาชนช่วยแจ้งด้วย จะมีการบังคับใข้กฎหมายโดยเด็ดขาดมิเช่นนั้นทำให้คนอื่นเดือดร้อน ผู้ที่ท้าทายจะต้องถูกลงโทษ
ด้าน พล.ร.ท.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 กล่าวว่า สถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ ทัพเรือภาคที่ 3 มีการเตรียมกำลังทหาร และกำลัง สห. พร้อมให้การสนับสนุนในส่วนของกอ.รมน.ประจำจังหวัดโดยเฉพาะกองทัพเรือได้มอบหมายให้ทัพเรือภาคที่ 3 ดูแลรับผิดชอบจัดกำลังพลสนับสนุน กอ.รมน.ภูเก็ตและพังงา
“ตั้งแต่มีการประกาศเคอร์ฟิว ทัพเรือภาคที่ 3 จัดกำลัง สห.สนับสนุน กอ.รมน.ภูเก็ต และกอ.รมน.พังงา ในการตั้งจุดตรวจ จัดชุดเคลื่อนที่เร็ว เพื่อยับยั้งไม่ให้ประชาชนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเคอร์ฟิวของรัฐบาลที่มีการออกประกาศมา และยังได้เตรียมกำลังทหาร กองร้อยช่วยเหลือประชาชน จำนวน 2 กองร้อยสนับสนุนให้กอ.รมน.จ.ภูเก็ต และกอ.รมน.จ.พังงา เมื่อเหตุการณ์เข้าสู่ภาวะขั้นที่ 3 กำลังทหารเข้าดูแลความปลอดภัยและให้การช่วยเหลือดูแลประชาชน” พล.ร.ท.เชิงชายกล่าว
ผบ.ทร.ภ.3 กล่าวต่อว่า ในส่วนจังหวัดต่างๆ ที่มีการประกาศปิดจังหวัดโดยเฉพาะการปิดท่าเรือ ขนส่งทางน้ำ การขนส่งคนโดยสารนั้น ทัพเรือภาคที่ 3 โดย ศรชล.ภาค 3 ได้บูรณาการกำลังร่วมกับหน่วยงานใน ศรชล.ภาค 3 จัดเป็นชุด เข้าตรวจพื้นที่บริเวณท่าเรือชายฝั่งที่เป็นท่าเรือโดยสาร ท่าเรือขนส่ง เพื่อคัดกรองผู้ที่เข้ามาในพื้นที่ให้เป็นไปตามประกาศจังหวัด ในการล็อกดาวน์ไม่ให้มีการขนส่งคนข้ามจังหวัด
ด้าน นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าฯ ภูเก็ต กล่าวว่า จ.ภูเก็ต โดยเฉพาะป่าตองเป็นแหล่งสำคัญได้ทำการสอบสวนโรคแล้วส่วนใหญ่ผู้ที่มีความเสี่ยงจะอยู่ที่ซอยบางลา ป่าตอง
“ซอยบางลา ป่าตอง มีสถานบริการทั้งสิ้น 6 แห่ง ที่มีโอกาสสัมผัสกับผู้ติดเชื้อ มีการสอบสวนโรค มีรายชื่อแล้ว มีความจำเป็นต้องปิดพื้นที่ป่าตองเพื่อประโยชน์ในการสอบสวนโรคส่วนผู้ที่อยู่ในข่ายต้องนำตัวไปกักกันเฝ้าระวังโรค 14 วัน ขณะนี้ทางกระทรวงสาธารณสุขได้ส่งทีมงานลงมาทำการตรวจเชื้อที่โรงแรมสลีพวิธมี ป่าตอง เพื่อทำสวอท เกี่ยวข้องทางการแพทย์ ในการตรวจสอบเชื้อบวกเชื้อลบ” นายภัคพงศ์ กล่าว และว่าส่วนโรงพยาบาลสนามในจังหวัดภูเก็ต เปิดรักษาผู้ป่วยอยู่ที่หอประชุมศาลากลางแห่งใหม่ ส่วน โรงพยาบาลสนามแห่งที่ 2 ได้พิจารณาไว้ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต ยังไม่เปิดให้บริการ.
