หลังปรากฏข่าวภาพ ส.ส.นครศรีธรรมราช อยู่ร่วมในงานนกกรงหัวจุกและวงน้ำชา ซึ่งระบุว่า ส.ส.คนดังกล่าวเป็น 1 ใน 8 คน ที่ปรากฏอยู่ในภาพ ซึ่งเกิดขึ้นในพื้นที่ อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช
โดยมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์โจนตีรุนแรงไปถึงกับระบุว่า “เป็นการขัดคำสั่งผู้ว่าฯ” การกระทำที่ผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ประกาศใช้ครอบคลุมทั้งราชอาณาจักร ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดหรือไม่?
ล่าสุด นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ ได้ออกมาเปิดเผยถึงภาพที่เกิดขึ้นว่า “เรื่องนี้ต้นได้เห็นข่าวที่เผยแพร่ในโลกโซเชียลแล้วไม่สบายใจ เพราะภาพที่เห็นนั้นเป็นเพียงการลงพื้นที่แจกหน้ากากอนามัยและแอลกอฮอล์ และรับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชนในทุกๆเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องปัญหาภัยแล้งในลุ่มน้ำปากพนังกับเรื่องปากท้องให้กับประชาชนในพื้นที่ และที่มีภาพของนกกรงหัวจุก ก็ไม่ได้เป็นงานอะไร แต่เป็นในพื้นที่ภาคใต้จะมีการแขวนราวนกกรงหัวจุกเอาไว้ตามบ้าน ตามร้านน้ำชาเป็นปกติอยู่แล้ว
ขณะที่ภาพซึ่งถ่ายร่วมกับชาวบ้าน จริงๆ
เป็นช่วงพักจากการเดินแจกแอลกอฮอล์และหน้ากากอนามัย และรับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชนในทุกๆเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องปัญหาภัยแล้งในลุ่มน้ำปากพนังกับเรื่องปากท้อง ซึ่งมีชาวบ้านเข้ามาขอภ่ายภาพด้วยซึ่งเป็นเรื่องปกติในทุกๆพื้นที่ที่ลงไปชาวบ้านให้ความสนใจและอยากถ่ายรูปกับ ส.ส.ที่พวกเขาพึงพอใจ ไม่ใช่งานเลี้ยงรื่นเริงอะไรตามที่เอาไปวิพากษ์วิจารณ์กัน และตอนถ่ายรูปก็เป็นช่วงพักและชาวบ้านอยากให้ถอดหน้ากากตอนถ่ายรูปเพื่อจะได้เห็นหน้าชัดๆ จึงถอดหน้ากากอนามัยเฉพาะตอนถ่ายรูปเท่านั้น เมื่อถ่ายภาพเสร็จก็ใส่หน้ากากตามเดิม พร้อมทั้งเดินแจกของไปตามปกติ
การนำภาพถ่ายไปเผยแพร่ก็ไม่ได้ขอรายละเอียด คือเอามุมเดียว แล้วก็ไปวิพากษ์วิจารณ์กันแรงๆ ซึ่งแน่นอนว่าเรื่องนี้ตั้งข้อสังเกตุว่ามีเบื้องหลัง คือมีเรื่องของการโจมตีกันโดยหวังผลทางการเมือง ซึ่งจริงๆ แล้วก็พอจะรู้มาบ้างว่าพวกที่แพ้บางคนที่ทำใจไม่ได้และใช้วิชามารรูปแบบเดิมๆ
แต่เมื่อชาวบ้านในพื้นที่เดือดร้อนเป็นส.ส.ก็ต้องทำหน้าที่ออกแจกหน้ากากออกช่วยเหลือแจกเจล แจกแอลกอฮอล์ และรับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชนในทุกๆเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องปัญหาภัยแล้งในลุ่มน้ำปากพนังกับเรื่องปากท้อง ไม่นึกว่าจะถูกนำมาเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์และเชื่อมโยงหวังผลทางการเมือง โดยเอาสถานการณ์ที่เกิดขึ้นมาใช้เป็นโอกาส ซึ่งเป็นการใช้ความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่มาโจมตีกันถือเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจเป็นอย่างยิ่ง
อย่างไรก็ตามก่อนจะลงเผยแพร่อย่างน้อยก็ควรถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นก่อน แต่พอมีการเผยแพร่ไปแล้วก็ทำให้เกิดความเสื่อมเสีย และมีชาวบ้านหลายคนพร้อมที่จะยืนยันว่า สิ่งที่ปรากฏในภาพเป็นการลงพื้นที่แจกหน้ากากอนามัยและแอลกอฮอล์และรับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชนในทุกๆเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องปัจภัยแล้งในลุ่มน้ำปากพนังกับเรื่องปากท้องจริง ไม่ใช่เป็นการลงไปในงานรื่นเริง ไม่ใช่งานประกวดนก แต่ภาพกรงนกกรงหัวจุกที่แขวนอยู่บนราวซึ่งเป็นปกติของพื้นที่นี้ กลับถูกเอาไปใช้ขยายความถึงพรก.ฉุกเฉิน หรือคำสั่งผู้ว่าฯ ซึ่งไม่ถูกต้องและควรจะสอบถามข้อเท็จจริงทั้งหมดก่อน อย่าฟังความเพียงข้างเดียว” นายสัณพจน์ กล่าว
