สถานการณ์ผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ยังไม่หยุด ล่าสุดเชื้อลามติดเด็ก 9 ขวบ ยอดรวมพุ่ง 44 ราย ในพื้นที่ 7 อำเภอ พร้อมเพิ่มมาตรการตรวจค้นการเข้าออกเข้มข้น 18 เส้นทาง
นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้ประกาศให้จังหวัดปัตตานีเป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ COVID-19 ทั้งพื้นที่ และมีคำสั่งห้ามประชาชนเดินทางเข้า-ออก ข้ามเขตพื้นที่ เนื่องจากเป็นพื้นที่ ที่เสี่ยงต่อการติดต่อเชื้อ COVID-19 โดยมีคำสั่งใช้อย่างจริงจังในวันนี้ (31มี.ค.) ทำให้ทางจังหวัดปัตตานี ได้เพิ่มมาตรการเข้มในการตรวจค้นการเข้าออกทั้ง ปัตตานี-ยะลา ปัตตานี-นราธิวาส และปัตตานี-สงขลา รวมทั้งสิ้น 18 เส้นทาง
โดยจังหวัดสั่งไม่ให้เจ้าหน้าที่สร้างความเข้าใจ และบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง หากพบว่าผู้ที่มาจากพื้นที่เสี่ยง และสงสัยว่าจะเป็นผู้ที่มีโอกาสติดเชื้อ COVID-19 ให้กักตัวทันที 14 วัน และมีผู้ใดฝ่าฝืนให้ดำเนินการตามกฎหมาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทันที
- “ผู้ว่าฯเมืองคอน” แจง ยังไม่ได้ออกคำสั่งปิดจังหวัด ตามที่ปรากฏในข่าว
- เชื้อไวรัส’โควิด-19’ ระบาดรุนแรง ผู้ว่าฯ 4 จังหวัดภาคใต้ ประกาศ ‘ปิดเมือง’
- แท็กซี่เฮงซวย! ไปถอนฟันโกหกหมอ ปฏิเสธทุกอย่าง ก่อนพบติดโควิด-19 จากสนามมวย
ขณะเดียวกัน มีกลุ่มไลน์หลายกลุ่มเผยแพร่ข้อความเด็ก 9 ขวบติดเชื้อในพื้นที่สายบุรี จังหวัดปัตตานีอย่างแพร่หลาย สร้างความตื่นตระหนกกับประชาชนอย่างมาก ข้อความจากไลน์ในพื้นที่ปัตตานีชื่อ Billa News โดยมีข้อความว่า #โควิด19 พบเด็ก 9 ขวบติดโควิด 19 ที่สายบุรี หมอขอร้องทำตามคำแนะนำแพทย์ นักศึกษากลับจากปากีสถาน กักตัว 14 วัน งดออกบ้านนั่งร้านชา
แพทย์หญิงยารียะ สารีกามา โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสายบุรี อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เปิดเผยว่า มีผู้ติดเชื้อโควิดของ สายบุรี เป็นเด็กอายุ 9 ขวบ จึงอยากขอร้องพี่น้องประชาชน ปฏิบัติตัวตามคำแพทย์แนะนำ ป้องกันบุตรหลานของท่านเองจากการได้รับเชื้อ
“ขอร้อง..ผู้ที่กลับมาจากพื้นที่เสี่ยงทุกคนแนะนำกักตัว14วันให้ถูกต้อง และขอร้องอีกอย่างคือระหว่างทางคุณไม่ต้องแวะที่ไหน ไม่ต้องสัมผัสใคร เพราะถ้าวันหนึ่ง คุณเป็นโควิด19 คนอื่นจะได้ไม่ต้องรับเชื้อจากคุณ” แพทย์หญิงยารียะ กล่าว
ส่วนกรณีนักศึกษาไทยที่กลับจากปากีสถานขอความร่วมมือกักตัวเอง 14 วันตามมาตรการของแต่ละจังหวัด เช่นเดียวกับพี่น้องที่ไปนั่งร้านน้ำชา “คุณไม่กลัวโควิด19 ไม่เป็นไรแต่ขอให้นึกถึงลูกเมียคุณจะติดไปด้วย”
